แกรนด์โครเอเชีย 9 วัน 6 คืน
วันที่ (1) : กรุงเทพฯ
วันที่ (2) : กรุงเทพฯ – โดฮา – ซาเกรบ – พูล่า – โรวินจน์ – โอพาเทีย
วันที่ (3) : โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่ (มรดกโลก) – ล่องเรือชม ทะเลสาบ
วันที่ (4) : พลิวิทเซ่ – ชม 3 เมืองมรดกโลก “ ซีบีนิค – โทรเกียร์ – สปลิท”
วันที่ (5) : สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเธี่ยน – มาลีสตอน – ดูบรอฟนิค
วันที่ (6) : ดูบรอฟนิค – นั่งกระเช้า – Rector’s Palace – ล่องเรือสู่ คาฟถัต – สปลิท
วันที่ (7) : สปลิท – ซาดาร์ – (ทานหมูหัน แห่งแคว้นตัลมาเชียน) – ซาเกรบ
วันที่ (8) : ซาเกรบ – สนามบิน – โดฮา
วันที่ (9) : กรุงเทพฯ
วันที่ (1) กรุงเทพฯ
18.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินกาตาร์ แถว Q ประตู 8
21.15 น. ออกเดินทางสู่ โดฮา โดยเที่ยวบินที่ QR 833
วันที่ (2) กรุงเทพฯ – โดฮา – ซาเกรบ – พูล่า – โรวินจน์ – โอพาเทีย
00.05 น. เดินทางถึง โดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
01.35 น. ออกเดินทางสู่ ซาเกรบ โดยเที่ยวบินที่ QR 215
06.30 น. เดินทางถึง เมืองซาเกรบ (Zagreb)เมืองหลวงของประเทศโครเอเชียเป็นเมืองที่มีประวัติ าสตร์มายาวนานกว่าพันปี โดยเมืองซาเกรบเพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ. 1994 ที่ผ่านมา
นำท่านเดินทางสู่ เมืองพูล่า (Pula) เมืองศูนย์กลางแห่งคาบสมุทรอิสเตรีย เคยเป็นดินแดนของประเทศอิตาลีทำให้มีผู้คนใช้ภาษาอิตาเลียนกันแพร่หลาย เป็นเมืองหนึ่งเดียวของโครเอเขียที่มีความเป็นโรมัน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะโรมัน ริมทะเลเอเดรียติก
นำท่านชม สนามอารีน่า (Arena) หรือ Amphitheater สนามกีฬากลางแจ้ง เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นในสมัยที่โรมันเรืองอำนาจ มีอายุพอๆกับโคลอสเซียมที่กรุงโรม เป็นอารีน่าที่ใหญ่เป็นอันดับหก สามารถจุผู้คนได้ถึง23,000 คน นับเป็นอารีน่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์มาก ปัจจุบันยังใช้เป็นที่แสดงคอนเสิร์ต การแสดงต่างๆอีกด้วย นอกจากนั้นผ่านชมประตูเฮอร์คิวลิส พูล่า ฟอรั่ม (Pula Forum) วิหารแห่งเทพออกุสตุส (Temple of Augustus) รวมถึงถนนคนเดินในเมืองเก่าที่ท่านจะได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อหาของฝากของที่ระลึกจากโครเอเชีย อาทิ กล่องเพลง ป้ายแม่เหล็กสถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่าง พูล่าแอมปิเธียเตอร์ เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองโรวินจน์ (Rovinj) นำท่านชมเมืองโรวินจน์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ร้านกาแฟ และร้านอาหารมากมาย ชม โบสถ์ St. Euphemia ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นโบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้น
นำท่านชมย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความงดงามของตึกรามบ้านช่องที่เรียงเป็นแนวยาวในตรอกเล็กๆริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ซึ่งบริเวณเมืองเก่าแก่นี้มีลักษณะเป็นเกาะแยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่แต่ได้มีการถมทะเลเชื่อมต่อเพื่อสะดวกในการเดินทาง จากนั้นมีเวลาให้อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ภาคตะวันตกของประเทศโครเอเชีย เรียกว่า แคว้นอิสเตรีย เพื่อชม เมืองโอพาเทีย (Opatija) ไช่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก ระหว่างทางผ่านชมวิวทะเลเอเดรียติคที่สวยงามทุกมุมมอง ด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของริมทะเลเอเดรียติกทำให้เมืองโอพาเทียเป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย
นำท่านชมตัวเมือง แวะบันทึกภาพ รูปปั้น Maiden with the Seagull ซึ่งถือว่าเป็นรูปปั้นที่แกะโดย Zvonko Car เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีเวลาให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองโอพาเทีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Remisens Premium Hotel Ambassador หรือเทียบเท่า
วันที่ (3) โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิวิทเซ่ (มรดกโลก)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่ (Plitvitce Lakes National Park) หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป และเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชียจากทั้งหมด 8 แห่ง พลิทวิทเซ่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศในปี ค.ศ. 1949 และยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ. 1979 อีกด้วย ประกอบไปด้วยทะเลสาบใหญ่น้อยมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านชมภายใน อุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่ ชมความงดงามของธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำตก ทะเลสาบมากมายหลายแห่ง และยังอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดประมาณ 1,266 สายพันธุ์ นอกจากนั้น ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด ในบรรดาสัตว์ที่อยู่ภายในอุทยานฯ มีหมีสีน้ำตาล ซึ่งมีชื่อพื้นเมืองว่า “URSUS ARCTOS” เป็นสัตว์ที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ล่องเรือชมทะเลสาบ Jezero Kozjak ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่แห่งนี้ ชมน้ำตก Veliki Slap น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ มีความสูงถึง 70 เมตร ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบ สัมผัสถึงบรรยากาศของสายน้ำอันชื่นฉ่ำ บนพื้นน้ำสีคราม และเกาะแก่งในทะเลสาบ ตลอดจนไม้ป่าจำพวกสนและเฟอร์ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ พร้อมชมฝูงปลาแหวกว่ายในท้องทะเล แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้อันร่มรื่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Jezero Plitvice or Similar
วันที่ (4) พลิทวิทเซ่ (มรดกโลก) – ซีบีนิค – โทรเกียร์ – สปลิท (มรดกโลก)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองซีบีนิค (Sibenik) นำท่านชมตัวเมืองซีบีน เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติคที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเวนิส ชมความงามของโบสถ์เซนต์จาคอบ (เซนต์เจมส์) ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยเรอเนสซองต์ในปี ค.ศ.1431 ตามสถาปัตยกรรมแบบเวนิส-โกธิค ผสมศิลปะทอสคาโนเรอเนสซองส์ โดยศิลปินชาวอิตาเลียน ซีบีนิคเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตอนกลางของแควันดัลเมเชีย เนื่องจากเมืองซีบีนิคนั้นตั้งอยู่บนบริเวณที่แม่น้ำครึคาไหลลงสู่ทะเลอาเดรียติค จึงเกิดเป็นความได้เปรียบทั้งในด้านคมนาคมทางน้ำ และความงามของทัศนีย์ภาพที่แต่งแต้มโดยธรรมชาติ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองโทรเกียร์ (Trogir) นั่งรถเลียบชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ให้ท่านได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงาม น้ำทะเลสีน้ำเงินคราม ใบไม้เขียวชอุ่ม ในระหว่างเดือน มิ.ย. – ก.ย. และ ใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างเดือน ต.ค. – มี.ค. ชมบ้านเรือนริมชายฝั่งทะเล อันแสนงดงามเมืองโบราณอีกเมืองหนึ่งของยุคกรีกและโรมัน ตัวเมืองมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน บางครั้งเรียกกันว่า “แคลิฟอร์เนียแห่งโครเอเชีย” ชม เขตเมืองเก่าโทรเกียร์ ซี่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1997 เนื่องจากยังคงรักษาสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันได้อย่างสมบูรณ์ ชม ประตูเมืองโทเกียร์ (Kopnena Vrata) ที่ได้บูรณะขึ้นใหม่ในศตวรรษที่1 / ผ่านชม หอนาฬิกา (Trogir Loggia And Clock Tower) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 / เข้าชม มหาวิหารเซนต์ลอเรนซ์ (Cathedral Of St.Lawrence) เริ่มสร้างในปี 1193 และใช้เวลาหลายสิบปีต่อมากว่าจะแล้วเสร็จในประมาณปี 1500 งดงามด้วยกรอบ บานประตูหินแกะสลักในรูปแบบโรมันเนสก์ที่มีสิงโตอาดัมกับอีฟ และนักบุญองค์สำคัญๆ
เดินทางสู่ เมืองสปลิท (Split) เมืองในแคว้นดัลเชีย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียนเมืองศูนย์กลางการพาณิชย์ และการคมนาคมของเขตดัลเมเชียน มีประชากรราว 300,000 คน และเป็นอีกเมืองที่ทางยูเนสโก้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ชมตัวเมืองสปลิท ที่สร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเชียน ประกอบด้วยศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองส์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ
นำท่านเข้าชม พระราชวังดิโอคลีเธี่ยน (Diocletian Palace) ที่ประทับของจักรพรรดิดิโอคลีเธี่ยนแห่งอาณาจักรโรมัน ที่แผ่ขยายอาณาเขตจากเวนิสสู่เมืองสปลิทในยุคโรมันโบราณ ท่านจะพบเห็นสถาปัตยกรรมหรือลานกว้างที่มีเสาสไตล์โรมันเรียงราย ภายในพระราชวังประกอบด้วยวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, วิหารเทพีวีนัส, โบสถ์ดอมนิอุส (Cathedral Of St.Domnius) ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว ชมย่าน People Square ศูนย์กลางทางธุรกิจ และการบริหารจากเมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง เช่น รูปภาพแกะสลักสมัย Venetian-Gothic, Cambi Palace และ Renaissance Town Hall ที่สร้างขึ้นในช่วงแรกของศตวรรษที่ 15 ชมอนุสาวรีย์ Gregory of Nin ที่ บริเวณประตูด้านทิศเหนือ หรือ Golden Gate ผลงานของศิลปิน Ivan Mestrovic
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Le Meridien Lav Split หรือเทียบเท่า
วันที่ (5) สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเธี่ยน – ดูบรอฟนิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านลัดเลาะเลียบไปตาชายฝั่งทะเลอะเดรียติคที่สวยงามสู่ มาลีสตอน (Maliston) ก่อนเดินทางถึง เมืองมาลี สตอน ท่านจะได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศบอสเนีย ระหว่างทางแวะถ่ายรูปและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ที่เมืองนีอุม ประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวโครเอเชีย (มีการตรวจวีซ่าที่บริเวณพรมแดน) จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนกลับเข้าสู่ประเทศโครเอเชีย
เดินทางถึง เมืองมาลี สตอน ที่เป็นสถานที่เลี้ยงหอยนางรมที่ขึ้นชื่อของประเทศโครเอเชีย นำท่านล่องเรือเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงหอยนางรม ให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลเอเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง จิบไวน์สด เพิ่มอรรถรสในการทาน ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลี สตอน (การล่องเรือ ขึ้นอยู่สภาพอากาศในวันเดินทาง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมให้ท่านทานเมนูหอยนางรม และริซอตโต้ ข้าวต้มสไตล์อิตาเลียน ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของอิตาลี พร้อมไวน์เลิศรส
บ่าย เดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เมืองทางตอนใต้ของประเทศ ที่พรมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า ลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอเดรียติก โดยเดินทางข้ามสะพานแขวนท่านจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคาก ระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะ ๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Valamar Dubrovnik President หรือเทียบเท่า
วันที่ (6) ดูบรอฟนิค – นั่งกระเช้า – เดินกำแพงโบราณ – ล่องเรือ – สปลิท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ขึ้นนั่งกระเช้า (Cable Car) สัมผัสวิวอันงดงามแบบพาราโนรามา ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ท่านจะได้รู้สึกตะลึงกับทัศนียภาพย่านเมืองเก่าที่มีมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของเมืองดูบรอฟนิค และทะเลเอเดรียติก ที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใสดั่งคริสตัลเป็นประกาย และหมู่เกาะจำนวนมากที่รายล้อมสวยงาม
นำท่านชม ศาลาว่าการประจำเมือง (City Hall) / เข้าชม Rector’s Palace ศูนย์กลางการบริหารเมืองดูบรอฟนิคในอดีตที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกรีก – โรมัน
ชมเสาหินโรแลนด์ (Roland’s Column) เป็นเสาหินที่นำเข้ามาที่ดูรอฟนิคเมื่อปี ค.ศ. 1419 โดยเสานี้เป็นสัญลักษณ์หมายถึงอิสรภาพและเอกราชของเมืองดูบรอฟนิค ด้านบนของเสาเป็นที่ตั้งของเสาธง ซึ่งจะใช้แขวงธงที่มีอักษรเขียนไว้ว่า “อิสรภาพ” (LIBRTAS) ในงานเทศกาลฤดูร้อนของเมืองดูบรอฟนิค นำท่านเดินขึ้นกำแพงเมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik City Wall) สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของเมืองดูบรอฟนิกและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มาเที่ยวดูบรอฟนิกแล้วไม่ได้ขึ้นเหมือนมาไม่ถึงดูบรอฟนิก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 เป็นกำแพงที่สร้างล้อมรอบย่านตัวเมือง ตั้งอยู่ริมทะเล เอเดรียติก มีความยาวถึง 1,940 เมตร ถือว่าเป็นกำแพงเมืองที่สวยงามที่สุดและแข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งในเขตทะเลเมดิเตอเรเนียน โดยบนกำแพงแห่งนี้ประกอบไปด้วยป้อมปราการที่ทำหน้าที่ปกป้องตัวเมืองและหอคอย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย ชม ประตูปิเล (Pile Gate) ซึ่งเป็นทางเข้าหลักที่เชื่อมอยู่กับสะพานหินที่มีอายุย้อนถึงปี ค.ศ.1537 เหนือประตูปิเลมีรูปปั้นของนักบุญเบลส (St. Blaise) ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเมืองดูบรอฟนิก
นำท่าน ล่องเรือชมความงามของท้องทะเลสีน้ำเงินครามแห่งเอเดรียติกเดินทางกลับเมืองสปลิท
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Le Meridien Lav Split หรือเทียบเท่า
วันที่ (7) สปลิท – ซาดาร์ – ซาเกรบ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองซาดาร์ (Zadar) นำท่านชม เมืองซาดาร์ (Zadar) ประเทศโครเอเชีย เมืองที่อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นดัลเมเทีย เป็นเมืองที่ร่ำรวยไปด้วยอารยธรรม โดยเฉพาะอารยธรรมแบบโรมันเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่กว่า 400 ปี ก่อนคริสต์ศตวรรษ ตัวเมืองมีกำแพงล้อมรอบและ ป้อมปราการที่แข็งแรง มีเสาหลักโบราณสูง 14 เมตรตั้งอยู่ที่ลานชุมนุมของเมืองและยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์หลายแห่ง
นำท่านชม ออร์แกนทะเล (Sea Organ) เครื่องดนตรีที่เล่นเพลงโดยใช้พลังขับเคลื่อนของคลื่นในท้องทะเล โดยจะมี ขั้นบันไดที่ทำจากหินอ่อนทอดตัวลงจากบริเวณชายฝั่งลงสู่ทะเล และมีท่อออร์แกนประมาณ 35 ท่อ ความยาว 70 เมตร โดยจะเล่นตัวโน้ต 5 ตัวโน้ตและมี 7 คอร์ด โดยเสียงเพลงที่จะได้ยินในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นที่จะซัดเข้ามากระทบฝั่งว่าเบาหรือแรงเพียงใด / ผ่านชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 มีความยาวประมาณ 90 เมตร และกว้าง 45 เมตร ปัจจุบันยังคง หลงเหลือซากสิ่งก่อสร้างในยุคโรมัน ณ ที่แห่งนี้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง **เมนูหมูหัน Riva Dalmacija**
บ่าย แวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์โดนัท (St. Donat Church) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 และเป็นโบสถ์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งแคว้นดัลเมเทีย แต่เดิมเรียกว่า Holy Trinity โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็นโบสถ์เซนต์โดแนทตามชื่อ ของบาทหลวงโดแนท (BISHOP DONAT) ภายหลัง และยังถือว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์อีกด้วย ชมฟอรัมหรือย่านชุมชนของโรมันเมื่อสองพันปี ก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆ ในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน มีความยาวประมาณ 90 เมตร และกว้าง 45 เมตร
เดินทางสู่ เมืองซาเกรบ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองศูนย์กลางการขนส่ง อุตสาหกรรม เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าพันปี โดยเมืองซาเกรบเพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ. 1994 ที่ผ่านมา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม Sheraton Zagreb หรือเทียบเท่า
วันที่ (8) ซาเกรบ – โดฮา – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านขึ้นรถราง (Funicular) ชมเมืองซาเกรบ บนฝั่ง Upper Town / ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark’s Church) โบสถ์ซึ่งมีสัญลักษณ์และจุดเด่นอยู่ที่หลังคาสีสันสดใสประดับด้วยตราประจำ (Coat Of Arms) ของโครเอเชีย, ดัลมาเชีย, ซลาโวเนีย และเมืองซาเกรบ อาคารรัฐสภา (Sabor) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1918 ในโอกาสที่โครเอเชียแยกตัวออกจากอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน
นำท่านเข้าชมภายใน โบสถ์เซนต์ สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ ศิลปะแบบโกธิค เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองซาเกรบ สร้างขึ้นแต่ต่คริสตวรรษที่ 11 ถือได้ว่าเป็นความยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชมประตูเมืองเก่าสโตนเกท (Stone Gate) ประตูเมืองเก่าสโตนเกท สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นประตูเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่มีรูปพระแม่มารีรอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่เสียหายจากไฟไหม้ เพื่อป้องกันภาพวาดจึงมีการสร้างโบสถ์เพิ่มเติมและภาพวาดที่ยังคงอยู่ด้านหลังตะแกรงโลหะ
15.30 น. เดินทางสู่สนามบิน
18.40 น. ออกเดินทางสู่ โดฮา โดยเที่ยวบินที่ QR 218
วันที่ (9) โดฮา – กรุงเทพฯ
01.00 น.. เดินทางถึง โดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
02.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 836
12.40 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
————————————————————
อัตราค่าบริการทัวร์ โครเอเชีย 9 วัน 6 คืน (QR)
อัตราค่าบริการสำหรับคณะเดินทาง (ผู้ใหญ่) 20 ท่านขึ้นไป
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…