LOFT-CL402_Amazing Iceland 10D 7N_Mar’20 (TG)
อุทยานแห่งชาติซิงเควลลีร์ (Þingvellir National Park) เพื่อเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ระยะทาง 89 กม. ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ และมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร
กำหนดการเดินทาง :
วันอังคารที่ 17 มี.ค. 63 (1) กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D (16-19) สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ และหัวหน้าทัวร์คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องการกระเป๋าสัมภาระและการเช็คอิน
วันพุธที่ 18 มี.ค. 63 (2) กรุงเทพฯ – สู่ออสโล (นอร์เวย์) – เที่ยวกรุงออสโล – สู่กรุงเรคยาวิก (ไอซ์แลนด์) – สติกกิชฮอลเมอร์
00.20 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 (ใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมง 30 นาที)
06.50 น. คณะเดินทางถึง สนามบินการ์ดเดอมูน กรุงออสโล (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมงและปรับเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 30 ตุลาคม 2563) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
รถโค้ชรอรับนำท่านเที่ยวชมกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ดที่ชื่อออสโลฟยอร์ด ซึ่งในปี 2006 ออสโลได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแทนที่โตเกียว
ผ่านไปชม ปราสาท Akurshus งานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในยุคเรอเนสซองส์สร้างในปี 1648 แล้วกลับไปเข้าสู่เขตใจกลางเมือง
ชมทำเนียบรัฐบาล, พระราชวังหลวง, อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อาทิ เนชั่นแนลเธียเตอร์, อาคารรัฐสภา และศาลาเทศบาลเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง … สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ สนามบินการ์ดเดอมูน อีกครั้ง
อิสระอาหารกลางวัน ภายในสนามบินตามอัธยาศัย (มีเงินสดให้ท่านละ 20 ยูโร)
12.50 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI319 (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 5 นาที)
14.55 น. คณะเดินทางถึง สนามบินเคฟลาวิก กรุงเรคยาวิก (อ่าวแห่งควัน) (เวลาที่เมืองเรคยาวิกช้ากว่ากรุงออสโล 2 ชั่วโมง) เนื่องจากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน นอกจากนี้ยังมีตำนานไวกิ้งโบราณที่มีหลักฐานแสดงถึงการปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน … หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางสู่ เมืองสติกกิชฮอลเมอร์ (Stykkisholmur) เดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 213 กม. เมืองเล็กๆ อีกเมืองสำคัญที่ตากล้องมืออาชีพมักมาเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติและยังเป็นเมืองที่ใช้ในการถ่ายทำหนังเรื่อง The Little Life Of Walter Mitty อีกด้วย
19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ FOSSHOTEL STYKKISHOLMURหรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันพฤหัสบดีที่ 19 มี.ค. 63 (3) สติกกิชฮอลเมอร์ – ภูเขาคีร์กจูเฟล – บอร์กาเนส – ซิงเควลลีร์ – น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ – น้ำตกกูลล์ฟอสส์ (ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์) – เซลฟอสส์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.15 น. นำท่านเดินทางสู่ เขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) เดินทางประมาณ 45 นาที เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพกับฉากหลังอันงดงามตามอัธยาศัย
10.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ระยะทาง 107 กม. เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลีร์ (Þingvellir National Park) เพื่อเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ระยะทาง 89 กม. ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ
ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ และมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร
จากนั้น นำท่านไปชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อน หรือ เกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีย์เซอร์ geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่ นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7–10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต
พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
แล้วไปชม น้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศและยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ
ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร … สมควรแก่เวลา นำคณะเดินทางสู่ เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ SELFOSS HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ในช่วงเวลาค่ำคืนและท้องฟ้าเปิด ท่านสามารถรอถ่ายภาพแสงเหนือ (Aurora) ได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นกับสภาพอากาศเป็นสำคัญ
วันศุกร์ที่ 20 มี.ค. 63 (4) เซลฟอสส์ – น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ – น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ – ขับสโนว์โมบิลตะลุยธารน้ำแข็งมียร์ดาลส์ – หน้าผาเดียร์โฮไล – วิค
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.15 น. นำท่านท่องเที่ยวเส้นทางแสนสวย South Shore ประเทศไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิง ทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วย ทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วย ฟาร์มปศุสัตว์ ฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 19 ครั้ง ล่าสุดในปี 2012
09.15 น. ให้ท่านได้สัมผัสความสวยงามของอีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทาง 70 กม. ซึ่งมีความสูง 60 เมตร ท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสายน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลหลั่งลงสู่พื้นราบตัดกับสีเขียวของมอสที่ปกคลุมโขดหินทั้งสองฝั่ง
แวะชมและถ่ายรูปกับความสวยงามของ น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ มีความสูง 62 เมตร เป็นม่านน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลลงจากหน้าผาสูงชันด้านบนลงสู่พื้นราบด้านล่าง แรงกระแทกของปลายสายน้ำเกิดเป็นละอองฟุ้งไปทั่วบริเวณทำให้หญ้าตระกูลมอสและเฟิร์นเติบโตปกคลุมหินที่เรียงรายริมลำธารเบื้องล่างอย่างสวยงาม
ประทับใจไปกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา, โตรกผา และหุบเหว เป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าประทับใจกับผู้ที่มาเยือนไอซ์แลนด์
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
11.45 น. นำท่านเดินทางสู่ เมียร์ดาลโจกุล (Myrdalsjokull) เพื่อนำท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรียกว่ารถซุปเปอร์จิ๊ปไปอีก 1 ชั่วโมง สู่ทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ Mýrdalsjökull Glacier …
จากนั้นให้ท่านได้ขับรถสโนว์โมบิล (Snowmobile) ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งเมียร์ดาลบนดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่อยู่สูงที่สุดของโลก มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธารน้ำแข็งทั้งหมดในไอซ์แลนด์ พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (คันละ 2 ท่าน พร้อมบริการอุปกรณ์ครบชุด มีชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบูท)
16.00 น. นำท่านเดินทางไป เดียร์โฮไล (Dyrholeay) ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ จุดเด่นของที่นี่คือหาดลาวาสีดำสนิท ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร ให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปบริเวณ หน้าผาเดียร์โฮไล อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีลักษณะเด่นคือเป็นหินที่ก่อตัวเป็นรูปโค้ง
มีทางลอดตรงกลางซึ่งการโค้งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีตเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์ จุดเด่นของที่นี่คือ หาดลาวาสีดำสนิท ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตรที่ริมผาจะเป็นปฏิมากรรมธรรมชาติเป็นแหลมหินที่มีรูขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล มองกลับไปด้านหลังจะพบกับธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull Glacier
17.00 น. นำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านวิค (Vik) เดินทางประมาณ 25 นาที ระยะทาง 20 กม. หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991
17.30 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ HOTEL KRIA หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ในช่วงเวลาค่ำคืนและท้องฟ้าเปิด ท่านสามารถรอถ่ายภาพแสงเหนือ (Aurora) ได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นและเห็นอย่างชัดเจนในไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว และการเกิดแสง AURORA BOREALIS เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายประการ ซึ่งไม่สามารถการันตีได้ว่าจะต้องเห็นทุกครั้ง ทั้งนี้ต้องขึ้นกับสภาพอากาศเป็นสำคัญ
วันเสาร์ที่ 21 มี.ค. 63 (5) วิค – หาดทรายสีดำ – ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน – หาดทรายเพชร – อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ – วิค
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น. นำท่านชมความสวยงามที่แปลกตาของ เรนิสฟายาร่า (Reynisfjara Beach) เดินทางประมาณ 15 นาที ระยะทาง 12 กม. ซึ่งเป็นลักษณะภูเขาเล็กๆ ที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟและก่อตัวขึ้นกลางแม่น้ำธรรมชาติ
อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ หาดทรายสีดำ (Black Sand Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ เป็นหินอัคนีที่พบได้โดยทั่วไป ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก มีรูปทรงเหมือนแท่งออร์แกนในโบสถ์และบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยบรรดานกต่างๆ อาทิเช่น นกแก้วทะเล หรือพัฟฟิ่นอีกด้วย
09.45 น. นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเนปฮาเวลเลียร์ (Hnappavellir) เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ระยะทาง 174 กม.
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมืองบุฟเฟ่ต์ ณ ภัตตาคาร
13.30 น. นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) เดินทางประมาณ 25 นาที ระยะทาง 30 กม. ให้ท่านได้ชม ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งที่มากขึ้นในทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร
ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์กหรือภูเขาน้ำแข็งก้อนโตๆ เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำในทะเลสาบยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงามที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก ซึ่งหากโชคดีท่านอาจได้พบกับแมวน้ำหรือสิงโตทะเล ขึ้นมาอาบแดดให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมในระยะใกล้ นอกจากนั้นสถานที่นี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง James Bond และ Batman อีกด้วย (การล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งในเดือนมีนาคม ไม่สามารถล่องเรือได้)
15.00 น. นำท่านไปชมความงามและถ่ายรูปบริเวณ หาดทรายเพชร (Diamond Beach) โดยบริเวณหาดทรายเพชรนี้มักจะมีก้อนน้ำแข็งที่แตกตัวลอยลงสู่ทะเลแล้วถูกน้ำทะเลซัดเข้ามาเกยตื้นที่ชายหาด น้ำแข็งบางก้อนสีใสแวววาว บางก้อนสีฟ้าสวยสดอยู่เกลื่อนกลาดเต็มชายหาดสีดำ ดูแล้วเหมือนเพชร
จากนั้น ให้ท่านได้พักผ่อนหรือบันทึกภาพสวยๆ บริเวณโดยรอบของ อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ (Skaftafell National Park) ที่มีน้ำพุวัทนาโจกุลเป็นฉากหลัง ซึ่งอุทยานแห่งนี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดชื่อว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุด หนาประมาณ 1,000 เมตร
17.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ หมู่บ้านวิค (Vik) เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ระยะทาง 150 กม.
19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ HOTEL KRIA หรือเทียบเท่าบเท่า
19.30 น. รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. 63 (6) วิค – ถ้ำน้ำแข็ง (Crystal Ice Cave) – เรคยาวิก – อาบน้ำแร่บลูลากูน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านชม ถ้ำคริสตัล (Crystal Ice Cave) เป็นถ้ำในทะเลสาบแช่แข็งที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต แต่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การเข้าไปชมความงดงามของถ้ำน้ำแข็งจึงสามารถทำได้แค่ในช่วงฤดูหนาว ความความโดดเด่นของถ้ำแห่งนี้ก็คือ ผนังน้ำแข็งคือก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัล ที่สามารถมองเห็นได้ภายใต้ผนังถ้ำให้ความรู้สึกเหมือนเราท่องไปในดินแดนพิศวง และไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงในโลกนี้ (ระยะเวลาในการเข้าชมถ้ำ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง // กรุณาเตรียมรองเท้าบู๊ทในการเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง)
13.15 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
14.30 น. นำท่านเดินทางสู่ กรุงเรคยาวิก เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ระยะทาง 150 กม.
พาท่านไปยัง บลูลากูน หรือทะเลสาบสีฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวกว่า 95% ต่างไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ เป็นบ่อน้ำธรรมชาติร้อนที่มีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย มีสีฟ้าใสบริสุทธิ์เหมือนอัญมณีสีเทอร์ควอยส์
อิสระให้ท่านแช่น้ำแร่ธรรมชาติเพื่อการบำรุงผิวพรรณ และพอกโคลนเพื่อบำรุงผิวพรรณ เพื่อผ่อนคลายคืนความสดชื่นให้ท่านอย่างเต็มอิ่ม (มีบริการผ้าขนหนูให้ท่าน // กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยสําหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบไทย ณ ภัตตาคาร
20.30 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือเทียบเท่า
กรณีสำหรับท่านที่ต้องการซื้อ Optional ตามล่าหาแสงเหนือ สามารถติดต่อหัวหน้าทัวร์หรือเคาเตอร์ของที่พักได้ที่หน้างาน (แพ็คเก็จตามล่าหาแสงเหนือ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ราคาประมาณ 60 ยูโรต่อท่าน)
วันจันทร์ที่ 23 มี.ค. 63 (7) เรคยาวิก – ล่องเรือชมปลาวาฬ – ชมเมือง – ถนนคนเดิน – เพอร์ลัน – เคฟลาวิก
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเรคยาวิก เพื่อให้ท่านได้สนุกไปกับ กิจกรรมล่องเรือชมปลาวาฬ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการชมวาฬที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
ชมเหล่าปลาวาฬที่มีอยู่มากมายอาศัยอยู่ในน่านน้ำแถบนี้จะมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงค์ หรือในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์เรียกว่า มิงคี (Minke), วาฬหลังค่อมและวาฬเพชรฆาต การล่องเรือชมวาฬใช้เวลา 3-3.5 ชั่วโมง (บนเรือมีชุดกันหนาวให้บริการ // ขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทเรือยกเลิกให้บริการ อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์บนเรือ
บ่าย นำท่านชมความสวยงามของสถานที่สำคัญต่างๆ ของ กรุงเรคยาวิก โดยเริ่มจากไปชม โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองที่เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเรกยาวิกโดยรอบ โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะเป็นศาสนสถาน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ สถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ รวมเวลาการก่อสร้าง 38 ปีคือตั้งแต่ปีเริ่มสร้างปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986
แล้วนำท่านไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยงผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น ผ่านชม รัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์ และศาลาเทศบาลเมือง
จากนั้น ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือช้อปปิ้งสินค้าของฝากของที่ระลึกบริเวณ ถนนคนเดิน Laugavegur ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง และเก่าแก่ที่สุดของเมือง Laugavegur มีความหมายว่า “wash road” เนื่องจากอดีตเคยเป็นเส้นทางเดินสู่บ่อน้ำพุร้อน โดยหญิงสาวในสมัยก่อนของกรุงเรคยาวิกจะเดินทางไปซักล้างเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มโดยใช้เส้นทางสายนี้ ปัจจุบันเป็นแหล่งช้อปปิ้งแหล่งรวมของห้างสรรพสินค้า และร้านเสื้อผ้าบูติคมากมาย
จากนั้น พาท่านไปยัง เพอร์ลัน (Perlan) เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง โดยสถาปนิกอิงกิมูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบอาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกลโดดเด่น แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก อิสระให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
20.30 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ PARK INN BY RADISSON KEFLAVIK AIRPORT หรือเทียบเท่า
วันอังคารที่ 24 มี.ค. 63 (8) สนามบินเคฟลาวิก – สู่โคเปนเฮเก้น – ช้อปปิ้ง
05.00 น. คณะออกเดินทางสู่ สนามบินเคฟลาวิก บริการอาหารเช้า (แบบกล่อง) เพื่อความสะดวกในการไปสนามบิน
07.45 น. เหิรฟ้าสู่ โคเปนเฮเก้น โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI204 (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 10 นาที)
11.55 น. คณะเดินทางถึง สนามบินคาสท์รัพ ประเทศเดนมาร์ก รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้า ย่านวอล์คกิ้งสตรีท หรือถนนสตรอยเกต ถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเก้นและอยู่ใจกลางเมืองเป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลก ที่มีความคับคั่งของร้านค้าตั้งแต่สินค้าราคาถูกและสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ถนนคนเดินนี้มีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตร เริ่มจากศาลาว่าการเมืองไปสิ้นสุดที่ Kongens Nytorv Stroget ที่มีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ หลุยส์วิตตอง ชาแนล ร้านนาฬิกาหรูแบรนด์ดังจากสวิส, พอร์ซเลน เป็นต้น
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบไทย ณ ภัตตาคาร
20.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ IMPERIAL HOTEL COPENHAGEN หรือเทียบเท่า
วันพุธที่ 25 มี.ค. 63 (9) เที่ยวชมเมืองโคเปนเฮเก้น – สนามบิน – สู่กรุงเทพฯ
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านชม กรุงโคเปนเฮเก้น เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรปที่ก่อตั้งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ
ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับเงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมด ตำนานแห่งความรักของเงือกน้อยสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงโคเปนเฮเก้น จากงานการประพันธ์อันลือชื่อของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) แอเรียล คือ ตัวละครสำคัญที่ทำให้กรุงโคเปนเฮเกน ได้รับฉายาอีกอย่างหนึ่งนอกจากสวรรค์แห่งเมืองท่าว่าเป็นเมืองแห่งความรักในเทพนิยายอีกด้วย นอกจากจะนั่งอวดโฉมอยู่ริมชายหาดแล้ว แอเรียลยังปรากฏตัวอยู่ในโปสการ์ดและของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นแม็กเน็ต, แก้วนํ้าและพวงกุญแจทั่วกรุงโคเปนเฮเกนอีกด้วย
ให้ท่านถ่ายรูปบริเวณลานกว้างหน้าพระราชวังอะมาเลียนบอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของบรรดาเหล่าพระราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ด้านหน้าของพระราชวังจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวันเหมือนกับพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมในอังกฤษ อาคารของพระราชวังตั้งต่อกันคล้ายเป็นวงกลม บริเวณตรงกลางเป็นลานกว้างซึ่งรถสามารถแล่นผ่านไปมาได้อย่างสบาย เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ไม่มีรั้วกั้น จัตุรัสด้านหน้าของพระราชวังท่านจะพบกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เดนมาร์กทรงม้าดูสง่างามยิ่งนัก
และให้ท่านถ่ายภาพกับน้ำพุเกฟิอ้อน อนุสาวรีย์ที่เป็นที่มาแห่งตำนานในการสร้างประเทศ ลักษณะเป็นน้ำพุรูปปั้นผู้หญิงกำลังถือแส้ไล่วัว 4 ตัว ที่มีตำนานเล่าขานกันว่าเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางกอบกู้ชาติ พระราชินีเกฟิอ้อน จึงแปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้นํ้าจนเกิดเป็นประเทศเดนมาร์ก …. จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงโคเปนเฮเก้น * อิสระอาหารกลางวันภายในสนามบินตามอัธยาศัย *
13.50 น. เหิรฟ้าต่อสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951 (ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 30 นาที)
วันพฤหัสบดีที่ 26 มี.ค. 63 (10) กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
06.20 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
ราคารวมตั๋วเครื่องบิน (คณะเดินทางขั้นต่ำ 20 ท่านขึ้นไป)
อัตรานี้รวม:
อัตรานี้ไม่รวม:
เงื่อนไขการชำระเงิน:
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…