ทัวร์ตุรกีเจาะลึก 10 วัน 2016 พระราชวังทอปกาปึ สวนทิวลิป เมืองตากอากาศอันตาเลีย นครใต้ดิน ระบำหน้าท้อง

LOFT-TUR_LUSURY RIVIERA 10 DAYS

กำหนดการเดินทาง โปรแกรม ลักซ์ชูรี ริเวียร่า ตุรกี 10 วัน

เดือน เมษายน 2558

  • 06-15 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 65,900.- บาท
  • 08-17 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 65,900.- บาท
  • 10-19 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 65,900.- บาท

พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace ซึ่งสร้างในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ อิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ภายในพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิเช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย นำท่านต่อด้วยการ ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus

Emirgan Park เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศตุรกี โดยที่ช่วงระหว่างเดือน เมษายน-กลางเดือน พฤษภาคม ของทุกๆ ปี ณ สวนสาธารณะแห่งนี้จะมีจัดงานเทศกาลดอกทิวลิป ซึ่งแท้จริงแล้ว ประเทศตุรกีเป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะมอบสิ่งพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกอย่างแท้จริง ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิป หลากสี หลายสายพันธุ์ นับเป็นล้าน ๆ ดอก ได้ตามอัธยาศัย (เฉพาะกรุ๊ปเดือน เมษายน-พฤษภาคม เท่านั้น เนื่องจากเดือน มีนาคม ดอกทิวลิปยังไม่บานสะพรั่ง)

วันแรกของการเดินทาง สนามบินสุวรรณภูมิ-กรุงอิสตันบูล

20.00 น. พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน U ประตู 9 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง

23.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 69 (บินตรง) สายการบิน มีบริการอาหารค่ำบนเครื่อง (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง)

วันที่สองของการเดินทาง กรุงอิสตันบูล-ฮิปโปโดรม-สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน-พระราชวังทอปกาปึ-ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์

05.35 น. เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากร จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ภัตตคาร เพื่อรับประทานอาหารเช้า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร

ชมสนามแข่งม้าของชาวโรมัน หรือ “ฮิปโปโดรม” Hippodrome หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อเป็นที่แสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ตุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย St. Sophia ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา จากนั้นนำท่านเดินข้ามถนนสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน Yerebatan Sarnici สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิจัสตินเนียน ในปี ค.ศ. 532 เพื่อเป็นที่เก็บน้ำสำหรับใช้ในพระราชวัง สำรองไว้ใช้ยามที่กรุงอิสตันบูลถูกข้าศึกปิดล้อมเมือง มีความกว้าง 65 เมตร ยาว 143 เมตร มีเสาค้ำหลังคา 336 ต้น

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace ซึ่งสร้างในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ อิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ภายในพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิเช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย นำท่านต่อด้วยการ ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus

ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ส่งท้ายครึ่งวันช่วงบ่ายด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย

พักค้างคืน ที่ Ramada Plaza Tekstilkent Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่สามของการเดินทาง กรุงอิสตันบูล-สวนทิวลิป-เมืองชานัคคาเล่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Emirgan Park เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศตุรกี โดยที่ช่วงระหว่างเดือน เมษายน-กลางเดือน พฤษภาคม ของทุกๆ ปี ณ สวนสาธารณะแห่งนี้จะมีจัดงานเทศกาลดอกทิวลิป ซึ่งแท้จริงแล้ว ประเทศตุรกีเป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะมอบสิ่งพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกอย่างแท้จริง ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิป หลากสี หลายสายพันธุ์ นับเป็นล้าน ๆ ดอก ได้ตามอัธยาศัย (เฉพาะกรุ๊ปเดือน เมษายน-พฤษภาคม เท่านั้น เนื่องจากเดือน มีนาคม ดอกทิวลิปยังไม่บานสะพรั่ง)

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอิสตันบูลอีกครั้ง นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาชเช่ Dolmabahce Palace พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ท่านออกเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัท Eceabat ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง จากนั้นข้ามช่องแคบดาดาแนลด์ โดยเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นฝั่งที่ เมืองชานัคคาเล่ Chanakkale ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า ตัดกับทะเลอีเจียน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Kolin Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ของการเดินทาง ม้าไม้เมืองทรอย-เมืองเปอร์กามัม-เมืองคูซาดาซึ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ กรุงทรอย Troy ชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอย Wooden Horse of Troy สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเองอีกด้วย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัม Pergamum

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชมความสวยงามของ วิหารอะโครโปลิส Acropolis ซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย มี โรงละครที่ชันที่สุดในโลก ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 10,000 คน จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasi ที่แปลว่า เกาะนก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียนเป็นท่าเรือที่สำคัญ เรื่อที่ล่องทะเลอีเจียนจะจอดเรียงรายกันอยู่ที่เมืองคูซาดาซึแห่งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยว เมืองเอฟฟิซุส Ephesus

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Le Bleu Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่ห้าของการเดินทาง เมืองคูซาดาซึ-บ้านพระแม่มารี-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-ช้อป ปิ้ง-โรงงานเครื่องหนัง-เมืองปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี House of Virgin Mary ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้านมีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้าย แล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน

จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน

นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-33.5 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Colossae Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่หกของการเดินทาง เมืองปามุคคาเล่-เมืองตากอากาศอันตาเลีย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอันตาเลีย Antalya (ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean Sea ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งแคบๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและท้องทะเลอันงดงาม จนนักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนล้วนให้การยกย่องว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งตุรกี” ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองนั้นก็มีทั้งส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชมความสวยงามของ เมืองอันตาเลีย Antalya ชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์” Hidirlik Tower อีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือ ประภาคารในอดีต ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ เป็นหอคอยทรงกลมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย จากนั้นนำท่านสู่ ประตูเฮเดรียน Hadrian’s Gate ประตูชัยซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน Roman Emperor Hadrian ในช่วงศตวรรษที่ 2โดยประตูนั้นถูกสร้างขึ้นในรูปแบบทรงโค้ง จำนวน 3 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นประตูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีอีกด้วย

จากนั้นนำท่านชม ท่าเรือโบราณ Old Habour ซึ่งปัจจุบันท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้ จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมความงามของอ่าวที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เนี่ยน Mediteranian Boat Trip เจ้าของสามญานาม “ริเวียร่าแห่งตุรกี” ให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดโดยการล่องเรือที่ตกแต่งคล้ายกับเรือโจรสลัด เรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างเรียงรายอยู่ตามหน้าผา และที่พลาดไม่ได้เรือจะพาท่านล่องไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นับว่าเป็นความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกทั่วๆไปในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไหลลงด้านล่างจะเป็นลำธารน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างคืน ณ โรงแรม Antalya Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันเจ็ดของการเดินทาง เมืองอันตาเลีย-เมืองแอสเพนโดส-เมืองคอนย่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแอสเพนโดส Aspendos ที่อยู่ห่างประมาณ 45 กิโลเมตร นำท่านชม โรงละครที่มีความยิ่งใหญ่ Roman Theater สัมผัสอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีความสวยงามและสามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 20,000 คน มีเวทีแสดงด้านหลังที่ถูกสร้างขึ้นหลายชั้นเหมือนกับอพาร์ตเม้นท์ ที่มีห้องสำหรับนักแสดงเพื่อไว้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย นอกจากนั้นทางด้านซ้ายและด้านขวายังมีทางที่ยื่นออกไปเหมือนกับระเบียงที่ติดต่อกับที่นั่ง ผ่านชมโบราณสถาน ความสวยงามของโรงละครที่สามารถจุได้ประมาณ 15,000 คน ซึ่งมีเวทีที่สวยงาม ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนพร้อมด้วยภาพที่แกะสลักอย่างงดงาม ด้านนอกยังแบ่งออกเป็นสามส่วนที่ประดับด้วยน้ำพุ และยังมีซากโบราณอื่น ๆ เช่น เสาที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามที่อยู่บนทางเดิน สถานที่ทำการค้าขาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูค ในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า Mevlana Museum หรือสำนักลมวน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า เดิมเป็นสถานที่ที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในตกแต่งประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดาและบุตรของเมฟลาน่า

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Rixos Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่แปดของการเดินทาง เมืองคอนย่า-เมืองคัปปาโดเกีย-นครใต้ดิน-ระบำหน้าท้อง

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia (ระยะทางประมาณ 213 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) ซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมากระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์ Caravanserai ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

พิเศษ!! เข้าชมบ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง Local Cave House ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่าน สัมผัสกับประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นเร้าใจโดยการนั่งเรือ Jet Boat Cruise ที่ Red River ปลอดภัยกับทีมงานมืออาชีพ ล่องไปตามลำน้ำที่มีทัศนียภาพสองข้างที่แปลกตาของสภาพภูมิประเทศ สลับกับทิวทัศน์ของขุนเขาที่มีรูปทรงต่าง ๆ เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และคนสำคัญอย่างท่าน ความเป็นจริงแล้ว เมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้มีกิจกรรมอีกมากมายกำลังรอให้ท่านได้มาเยือนได้มาสัมผัส แกรนด์แคนย่อนแห่งตุรกีเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์

จากนั้นนำท่านชม “โชว์ระบำหน้าท้อง” ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี

พักค้างคืน ที่ Perissia Hotel 5* หรือเทียบเท่า

วันที่เก้าของการเดินทาง เมืองคัปปาโดเกีย-เมืองไคเซอร์รี่-กรุงอิสตันบูล

05.00 น. ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 200 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา

210 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli ซึ่งเป็นเมืองใต้ดินที่มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งสาเหตุแท้จริงของการสร้างเมืองใต้ดิน ปัจจุบันยังสรุปไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าเป็นการสร้างเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นกลับถ่ายเทเย็นสบาย เนื่องจากเป็นหินภูเขาไฟ มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 17-18 องศาเซลเซียส หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบ อาเซียนบุฟเฟ่ต์

ท่านชม เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เมืองไคเซอร์รี่ (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล

19.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2021

20.50 น. เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)

วันที่สิบของการเดินทาง กรุงเทพมหานคร

00.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68

14.50 น. เดินทางถึงสนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

*** End of Service ***

กำหนดการเดินทาง โปรแกรม ลักซ์ชูรี ริเวียร่า ตุรกี 10 วัน

เดือน เมษายน 2558

  • 06-15 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 65,900.- บาท
  • 08-17 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 69,900.- บาท
  • 10-19 เมษายน 2558 ราคาท่านละ 69,900.- บาท

อัตราค่าบริการ ทัวร์ ลักซ์ซูรี ริเวียร่า ตุรกี 10 วัน

  • ผู้ใหญ่พักห้องคู่ หรือ เด็ก1ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ 65,900 บาท
  • ในกรณีต้องการพักห้องเดี่ยว เพิ่มเงินอีกท่านละ 10,000 บาท
  • เด็กต่ำกว่า 12 ปี (เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน) ราคาท่านละ 64,900 บาท
  • เด็ก ต่ำกว่า 12 ปี (ไม่เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน) ราคาท่านละ 63,900 บาท
  • เด็ก อายุ 2-11 ปี (ไม่เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน) ราคาท่านละ 62,900 บาท
  • ราคาทัวร์ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ Land Only) ราคาท่านละ 45,900 บาท
  • ชั้นธุรกิจ เพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ84,000 บาท

*** ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง Confirmed เท่านั้น **

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558) **

ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)
  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม)

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นนักท่องเที่ยว สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส (น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศตุรกี
  • ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000.- บาท (ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, น้ำดื่มบริการบนรถ วันละ 2 ขวด
  • ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุเจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น (3.00USD / ท่าน / วัน), คนขับรถ (2.00USD / ท่าน / วัน) (คิดเป็น 8 วัน รวมเท่ากับ 40 USD)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ท่านละ 3.00 USD /ท่าน / วัน (คิดเป็น 10 วัน รวมเท่ากับ 30 USD)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

เงื่อนไขการจองทัวร์ ลักซ์ชูรี่ ริเวียร่า ตุรกี 10 วัน

การชำระเงิน

  • งวดที่1:สำรองที่นั่งมัดจำท่านละ 20,000.- บาท ภายใน 3 วันหลังจากทำการจอง
  • งวดที่2: ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายใน 30 วันล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

สอบถามทัวร์ LINE: @lofttravel TEL: 02-402-6475, 02-046-0046, 080-291-0123, 085-225-4664, 086-321-4740, 086-322-1610

Ball LoftTravel

โปรแกรมล่าสุด

ทัวร์ยุโรป ชมใบไม้เปลี่ยนสี เจาะลึกเยอรมัน 11 วัน 8 คืน (TG) 15 – 25 ตุลาคม และ 22 ตุลาคม – 01 พฤศจิกายน 2564 มิวนิค เบิร์ชเทสการ์เด้น เหมืองเกลือ บาดไรเค่นฮาล การ์มิช พาร์เท่น เคียร์เช่น ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (เยอรมันแอลป์) ปราสาทนอยชวานสไตน์ มิวนิค ช้อปปิ้ง Ingolstadt Village โรเธนบวร์ก (เส้นทางสายโรแมนติก) โรเธนบวร์ก เดรสเดน เบอร์ลิน กำแพงเบอร์ลิน บรันเดนบวร์ก ช้อปปิ้งคูดัม พอสต์ดัม พระราชวังซองซูซีส์ นั่งรถไฟ ICE สู่โคโลญจน์ มหาวิหารโคโลญจน์ ปราสาทเอลท์ซ แฟรงค์เฟิร์ต

LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…

3 years ago

ทัวร์ยุโรปตะวันออก ชมใบไม้เปลี่ยนสี เยอรมัน เชค สโลวาเกีย ฮังการี ออสเตรีย 10 วัน 7 คืน ตุลาคม 2564 (TG) นครมิวนิก พัสเซา เชสกี้ ครุมลอฟ เมืองมรดกโลก เมืองน้ำแร่ คาร์ลโลวี วารี กรุงปร๊าก ปราสาทปร๊าก เที่ยวชมเมืองเก่า สะพานชาร์ล นาฬิกาดาราศาสตร์ บาริสลาวา (สโลวัค) บูดาเปสต์ (ฮังการี) ล่องเรือแม่น้ำดานูบ เวียนนา (ออสเตรีย) หมู่บ้านกรีนซิ่ง กรุงเวียนนา พระราชวังบรุนน์ ภูมิภาคชาลส์กัมเมอร์กูท ทะเลสาบเซนต์วูลฟ์กัง ฮัลล์สตัทท์ มิวนิก มาเรียนปลัตซ์

LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…

3 years ago

ทัวร์ยุโรป ชมใบไม้เปลี่ยนสี อังกฤษ เวลส์ สก็อตแลนด์ 10 วัน 7 คืน ตุลาคม 2564 ลอนดอน สโตนเฮ้นจ์ พิพิธภัณฑ์น้ำแร่ที่เมืองบาธ คาร์ดี๊ฟ ไบบิวรี เบอร์ตันออนเดอะวอเตอร์ สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน ยอร์ค ยอร์คมินสเตอร์ นั่งรถไฟสาย อีสต์โคสด์ เรลเวย์ เอดินเบิร์ก ปราสาทเอดินเบิร์ก พระตำหนักโฮลีรู๊ด เลคดิสทริค วินเดอร์เมียร์ เลคดิสทริค แมนเชสเตอร์ สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด มหานครลอนดอน ลอนดอนอาย ทาวเวอร์ออฟลอนดอน มาดามทุสโซ่ด์ ช้อปปิ้งบนถนนอ็อกฟอร์ด พระราชวังวินด์เซอร์

LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…

3 years ago

ทัวร์ยุโรป ชมแสงเหนือ สแกนดิเนเวีย สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก 11 วัน 8 คืน ตุลาคม 2564 (TG) กรุงสต็อกโฮล์ม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา ซิตี้ฮอลล์ แกมล่าสแตน เมืองคิรูนา โรงแรมน้ำแข็ง อุทยานแห่งชาติอบิสโก ชมปรากฏการแสงเหนือ รถไฟสายอาร์คติคเซอร์เคิล นาร์วิก เมืองสโววาร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน นุสฟยอร์ด มอคคาเนส หมู่บ้าน Å หมู่บ้าน Reine หมู่บ้านชาวประมง Hamnoy พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง สโววาด์ นาร์วิก สวนสัตว์ Polar Park ทรูมเซอ ล่องเรือชมฟยอร์ด เคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน ออสโล เรือสำราญ DFDS โคเปนเฮเก้น

LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…

3 years ago

ทัวร์ยุโรป ชมใบไม้เปลี่ยนสี อิตาลี 8 วัน 5 คืน ตุลาคม 2564 (TG) มิลาน ซีร์มิโอเน่ ทะเลสาบการ์ดา โดโลไมท์ ทะเลสาบเบรียส ทะเลสาบมิซูริน่า Seiser Alm Aerial Cableway เซนต์มักดาเลนา เวอโรน่า บ้านจูเลียต อิตาเลียนริเวียร่า ซิงเคว เทเร่ เยือน 5 หมู่บ้านงามของอิตาลี ปอร์โตฟิโน่ เจนัว Serravalle Designer Outlet

LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…

3 years ago


Copyright © Loft Tour Co., Ltd. (License No.11/07818) All rights reserved.
ขอสงวนลิขสิทธิ์ บรรดา บทความ ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว ในเวปไซต์นี้ ตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ ห้ามผู้ใด ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด