ROMANIA – BULGARIA Rose Festival
12 วัน 9 คืน ชมเทศกาลกุหลาบ 1 ปีมีครั้งเดียว
นำท่านเดินทางสู่เมืองบูคลาเรสต์ (BUCHAREST) – โคเซีย(COZIA) – ซีบิว(SIBIU) วิหารโคเซีย (COZIA MONASTERY) – Great Square -จัตุรัสเล็ก Little Square – จัตุรัสฮูเอ็ต (Huet Square)- โบสถ์ซีบิว (SIBIU’S EVANGELICAL CATHEDRAL)- ปราสาทคอร์วิน (Corvins’ Castle)-ป้อมปราการฮังการี (Hungary Citadel)- พิพิธภัณฑ์หอนาฬิกา (Clock Tower)-พิพิธภัณฑ์โรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย (ROMANIAN FIRST SCHOOL MEUSEUM)- ปราสาทเพเลส (PELES CASTLE)- ปราสาทบราน(BRAN CASTLE-ปราสาทแด๊กคูล่า) – งานเทศกาลกุหลาบโลกที่มีเพียงปีละครั้ง สัมผัสประสบการณ์การเก็บเกี่ยวดอกกุหลาบอย่างคนท้องถิ่น พร้อมลิ้มรสชาติของไวน์ Wine Testing เที่ยวโซเฟีย (Sofia) – อารามมรดกโลกรีล่า (Rila monastery)- มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral)- ชมทะเลสาบที่สวยงาม Seven Rila Lake- Belogradchik Fortess ป้อมปราการเก่าแก่สมัยโรมัน
โปรแกรมทัวร์โรมาเนีย บัลแกเรีย 30 พ.ค. – 10 มิ.ย. 2559 เทศกาลกุหลาบ 1 ปีมีครั้ง
วันที่ 1 : กรุงเทพ – บูคาเรสต์ (Bucharest) (30/05/2016)
20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ ชั้น4 ประตู 9-10 เคาน์เตอร์ (แถว 14-18) สายการบินออสเตรียน(OS) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.45 น. ออกเดินทางสู่ประเทศโรมาเนีย โดยสายการบินออสเตรียน(OS)เที่ยวบินที่ OS26 (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง 50 นาที)
วันที 2 : บูคาเรสต์ (Bucharest) (31/05/2016)
05.35 น. แวะเปลี่ยนเครื่อง ณ สนามบิน เวียนนา (VIE)
07.00น. ออกเดินทางต่อ สู่สนามบินบูคาเรสต์ โดยสายการบินออสเตรียน(OS) เที่ยวบินที่ OS789
09.35 น. เดินทางถึงสนามบินบูคาเรสต์ (OTP) ประเทศโรมาเนีย นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านเดินทางสู่เมืองหลวงของโรมาเนีย กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบวอลลาเซีย ติดเทือกเขาคาร์เปเชียน และแม่น้ำดานูป บูคาเรสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” นำท่านเที่ยวชมเมืองและแวะถ่ายรูป (หากรถสามารถจอดได้) ชมจัตุรัสแห่งการปฎิวัติ (Revolution Square), โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House), คลับทหารแห่งชาติ (National Military Academy) ผ่านชม “ประตูชัย” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนKISSELEFF ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูชัย ในกรุงปารีส ในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนีย(Romanian Athenaeum)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านเข้าชมอาคารรัฐสภาหรือทำเนียบประธานาธิบดีของโรมาเนีย Parliament Palaceทำเนียบประธานาธิบดีที่ใหญ่โตโอฬารของประธานาธิบดีเชาเชสคู และ นางเอลินา ภริยาผู้ซึ่งอยากมีชีวิตหรูหราประหนึ่งเอวิต้า เปรอง อาคารรัฐสภานี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนห้องมากถึง 6,000 ห้อง สร้างแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนีย ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคาร แต่ละห้องตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา โดยเฉพาะห้องแกรนด์บอลลูม ที่ได้มีการตกแต่งโคมไฟประดับโบฮีเมียน้ำหนักถึง 5 ตัน ปูพื้นด้วยพรมเปอร์เซียผืนใหญ่ ห้องรับรองซึ่งสร้างจากหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ให้ท่านได้สัมผัสถึงความโอ่อ่า ความยิ่งใหญ่ของอาคารรัฐสภาที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้าง
นำท่าน CHECK-IN เข้าพักผ่อนในโรงแรม Rin Hotel 4* Hotel
เย็น รับประทานอาหารค่ำ
วันที 3 : บูคาเรสต์(Bucharest) – โคเซีย(Cozia) – ซีบิว(Sibiu) (01/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชมวิหารโคเซีย (COZIA MONASTERY)ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโอล์ตในแคว้นวัลลาเชียแวดล้อมด้วยธรรมชาติสวยงามของป่าเขาวิหารสร้างขึ้นตั้งแต่ค.ศ.1386 หนึ่งในวิหารสวยงามสิ่งก่อสร้างโดยปู่ของเจ้าชายวลาดเทเปสหรือแดร็กคูล่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามอลังการเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญในคริสต์ศาสนาถือเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกและยังเป็นที่เก็บสะสมงานศิลป์และวัตถุโบราณล้ำค่าปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คงใช้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์และศาสนกิจของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันอาหารพื้นเมือง
จากนั้นเดินทางสู่เมืองซีบิว(SIBIU)เป็นเมืองสำคัญในแคว้นทรานซิลวาเนียอยู่ในจังหวัดซีบิวที่มีชื่อเดียวกันซึ่งตั้งอยุ่ห่างจากเมืองหลวงบูคาเรสต์ทางตะวันตกเพียง 282 กิโลเมตรในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรทรานซิลวาเนียระหว่างปีค.ศ. 1692 – 1791 เมืองซีบิวเป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของโรมาเนียโดยถูกกำหนดให้เป็น“เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโปในปีค.ศ. 2007”ควบคู่ไปกับลักเซ็มเบิร์กนิตยสารForbes จัดให้เมืองซีบิวอยู่ในอันดับที่ 8 ของสถานที่ท่องเที่ยวงดงามที่สุดของยุโรปเมืองที่ร่ำรวยที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนียชมทัศนียภาพของโอล์ตแวเลย์จากนั้นจากนั้นนำท่านสำรวจชมเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์คงความยิ่งใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงความร่ำรวยและอำนาจที่ครอบงำการค้าในภูมิภาคพื้นที่ประวัติศาสตร์กับถนนสายแคบๆที่ตัดผ่านอาคารในยุคสมัยยุโรปกลางมุ่งสู่จัตุรัสกลางเมืองซีบิวเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลแห่งแรกในโรมาเนียในปีค.ศ. 1292 มีร้านขายยาแห่งแรกในปีค.ศ. 1494 รวมถึงพิพิธภัณฑ์Brukenthal Museum ที่เปิดในปีค.ศ. 1817 เก่าแก่ที่สุดในโรมาเนียหนังสือเล่มแรกในภาษาโรมาเนียนถูกตีพิมพ์ในซีบิวเมื่อปีค.ศ. 1544 ผ่านชมจัตุรัสใหญ่กลางเมืองGreat Square หรือGrand Square จัตุรัสเล็กLittle Squareจากนั้นมุ่งสู่จัตุรัสฮูเอ็ต (Huet Square)เต็มอิ่มกับบรรยากาศโดยรอบมีร้านค้ามากมายภายในอาร์เคดทางเดินที่มีร้านขายของสองฝั่งทางและมาชมโบสถ์ซีบิว (SIBIU’S EVANGELICAL CATHEDRAL)โบสถ์เก่าแก่กลางเมืองที่สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1320 จนแล้วเสร็จในปี1520 เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคตามแบบของเยอรมันผสมผสานกับศิลปะดั้งเดิมของโรมาเนียตัวโบสถ์มียอดแหลม5 ยอดยอดที่สูงสุดวัดได้คือ74 ชมLiars Bridgeซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สุดของเมืองซีบิวเพราะเป็นสะพานเหล็กแห่งแรกของโรมาเนียสร้างขึ้นแทนที่สะพานเดิมที่เป็นไม้และเป็นสะพานเหล็กแห่งที่สองที่สร้างขึ้นในยุโรป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม Ramada 4* Hotel หรือเทียบเท่า
วันที 4 : ซีบิว(Sibiu) – Biertan Fortified – เมืองซีกิสวารา(Sighisoara)– บราซอฟ(Brasov)(02/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางไปยังหมู่บ้าน Biertanกล่าวถึงครั้งแรกในเอกสารอย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1283 เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและน่าประทับใจมากที่สุดในยุคกลางเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนียนำท่านชมโบสถ์ป้อมปราการ(Biertan Fortified Church) โบสถ์ประจำเมือง ที่มีป้อมปราการและหอรบล้อมรอบอย่างแน่นหนา ที่เป็นเช่นนี้เพราะนอกจากจะใช้เป็นศาสนสถานแล้วโบสถ์ป้อมปราการยังถูกใช้ในการหลบภัยของชาวเมืองเมื่อเกิดภัยสงครามอีกด้วยออกเดินทางต่อสู่เมืองซีกิสวารา (Sighisoara) ระหว่างทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์หอนาฬิกา (Clock Tower)ที่มีชื่อเสียงนำท่านชมแต่ละห้องภายในหอนาฬิกาซึ่งใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสะสมของมีค่าที่ขุดได้ภายในเมืองนี้ชมทัศนียภาพของเมืองซิกิสวาราจากยอดสูงสุดของหอนาฬิกาแห่งนี้ท่านจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเมืองจากมุมสูงนำท่านชมห้องทรมานนักโทษตลอดจนห้องเก็บอาวุธจากนั้นนำท่านเดินทางไปยังบ้านเกิดของวลาดเทเปส (ท่านแดร็กคูล่า)นำชมบ้านที่ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของท่านเค้าท์ในปีค.ศ. 1432
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันในบ้านที่เกิดแดรกคิวลา
จากนั้นเดินทางต่อไปสู่บราซอฟ(Brasov)ก่อตั้งขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 โดยการตั้งถิ่นฐานของแซกซอนซึ่งเคยถูกปกครองโดยชนชาติเยอรมันที่แห่งนี้ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของยุคกลางที่สวยงามจากสิ่งปลูกสร้างและตึกอาคารมากมายจากสมัยยุคกลางเมืองหลวงของจังหวัดบราซอฟที่ตั้งอยู่เกือบตรงกลางของประเทศโรมาเนียในแคว้นทรานซิลวาเนียเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ตีนเขาคาร์เปเธี่ยน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของประเทศโรมาเนียมีภูเขาโอบล้อมอยู่สามด้านเป็นยุทธภูมิที่ดีเหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานดังนั้นเหล่าอัศวินติวโตนิกจึงได้ลงหลักปักฐานสร้างเมืองขึ้นที่นี่ในปีค.ศ. 1211 และเป็นเมืองได้รับการอนุรักษ์ปกป้องบูรณะไว้เป็นอย่างดีที่สุดในยุโรปเมืองหนึ่งจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมาแวะเยือนเมืองบราซอฟในจำนวนที่เพิ่มขึ้นๆทุกปีนำท่านชมจุดสำคัญที่สุดของการชมเมืองที่นี่คือพิพิธภัณฑ์โรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย (ROMANIAN FIRST SCHOOL MEUSEUM)ที่รวบรวมหนังสือหายากภาพพิมพ์ต่างๆและสมุดคัดลองหนังสือเขียนด้วยลายมือหายากที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์นำท่านเข้าชมโบสถ์ดำที่มีชื่อเสียงหรือที่รู้จักในนาม BLACK CHURCHสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1383ซึ่งจัดเป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม Golden Time 4* Hotel
วันที่ 5 : บราซอฟ(Brasov) – บราน(Bran) – (Azuga) – (Sinaia) – Bucharest (03/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองบราน (BRAN)เมืองที่มีชื่อเสียงมากอีกเมืองหนึ่งของโรมาเนียเมืองซึ่งได้ชื่อว่าเป็นที่อยู่ของแวมไพร์นำท่านเข้าชมปราสาทบราน (BRAN CASTLE) หรือที่รู้จักกันในนาม “ปราสาทแดร็กคูล่า” โด่งดังจากนักประพันธ์นามแบรมสโตคเกอร์ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในในศตวรรษที่14 เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในโรมาเนียตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขาสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมควบคุมเส้นทางการค้าและเก็บภาษีระหว่างแคว้นวาลันเซียและแคว้นทรานซิลวาเนียจากนั้นอิสระนำท่านช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึกและของฝากก่อนรับประทานอาหารกลางวัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันณ ภัตตาคารอาหาร
บ่าย ออกเดินทางต่อไป Rasnov ไปเยี่ยมชมป้อมปราการที่สวยงามตั้งอยู่บนหินบนยอดเขา Carpathian สูง 650 ฟุต. สร้างขึ้นในปีค.ศ.1331, ป้อมปราการถูกสร้างขึ้นโดยอัศวินเพื่อการป้องกันการบุกรุกพวก Tartars ในภายหลังขยายโดยประชากรชาวอังกฤษท้องถิ่น ต่อจากนั้นเดินทางไปยัง Azuga ซึ่งเป็นห้องเก็บไวน์ใต้ดินสร้างขึ้นในปี 1892 และเป็นผู้ผลิตไวน์ Romanian’s Royal Court ที่มีชื่อเสียงของโรมาเนีย ต่อจากนั้นเดินทางไปยังเมืองซินายา (Sinaia) พาท่านชมปราสาทเพเลส Peles ตั้งอยู่ที่หุบเขาเทือกเขาบูซากิ (Bucegi) กลางป่าสนบนเทือกเขาคาร์เปเทียน เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงาม และคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในโรมาเนีย สร้างขึ้นโดยกษัตริย์คาโรล ที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนปราสาทนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 10 ปี ตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบเยอรมัน ภายในปราสาทตกแต่งหรูหราอลังการด้วยไม้แกะสลักเสลาลวดลายงดงาม เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะที่สวยงามมากมายจากประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น โคมไฟระย้าจากอิตาลี รูปภาพติดผนังจากฝรั่งเศส เป็นต้น จากนั้นนำท่านเข้าสู่ กรุงบูคาเรสต์(BUCHAREST)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักโรงแรม Golden Tulip Victoria 4* Hotel
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
วันที่ 6 : Bucharest – Veliko Tarnovo – คาซานลัค (Kazanlak)(04/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเวลีคอเทอร์โนโว (VELIKO TARNOVO) ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือระยะทางห่างประมาณ 70 กม.โดยเดินทางผ่านข้ามพรมแดนโรมาเนียไปยังบัลกาเรีย ที่ด่านอาร์บานาสซี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่แหล่งชุมชนของชาวอัลบาเนียและชาวกรีกที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยศตวรรษที่16 ให้ท่านได้ชมอาคารบ้านเรือนสวยงามแปลกตาที่ปลูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบ Bulgarian National Revival ซึ่งบางทีก็ถูกเรียกว่า บัลแกเรียนเรเนซอง(Bulgarian Renaissance) อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวในย่าน Gurko Street
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นเดินทางต่อไปยังทิศตะวันออกไปยังหุบเขากุหลาบหุบเขากุหลาบในKazanlakและKarlovoซึ่งบางส่วนของหุบเขานี้เป็นของทุ่งNova Zagoraซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ3,300ตารางกิโลเมตรนำท่านเดินทางไปตามเส้นทางสายดอกกุหลาบณหุบเขาแห่งดอกกุหลาบ (The Valley of Roses)แหล่งปลูกกุหลาบอันกว้างใหญ่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือนเมื่อมาเมืองคาซานลัคมีภูมิอากาศเหมาะแก่การเติบโตของดอกกุหลาบอย่างมากอาจจะเรียกได้ว่าดอกกุหลาบที่มาจากเมืองคาซานลักเป็นดอกกุหลาบที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลกชมทุ่งดอกกุหลาบที่ปลูกไว้ในไร่อันกว้างใหญ่กินอาณาเขตไปเป็นภูเขาทั้งลูกให้ท่านได้ตื่นตาไปกับความสวยงามของดอกกุหลาบนานาชนิดที่เบ่งบานรอการเก็บเกี่ยวอย่างสวยงามชมวิธีการเก็บดอกกุหลาบในไร่ให้ท่านได้ลองเก็บกุหลาบที่มีกลิ่นหอมอย่างสนุกสนานและให้ท่านได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหอมเช่นน้ำหอมโลชั่นสบู่แชมพูและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นพฤกษาดอกไม้นานาพันธ์โดยเฉพาะกลิ่นกุหลาบที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้
นำท่าเข้าสู่ที่พักGRAND HOTEL KAZANLUKและพาท่านไปเดินชมงานพร้อมชิมไวน์กุหลาบ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
วันที่ 7 :Kazanlak– เก็บดอกกุหลาบจากสวนสวยRose Picking – เทศกาลกุหลาบโลกTHE ROSE FESTIVAL IN THE VALLEY OF ROSES–Plovdiv (05/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อชมความงดงานของทุ่งดอกกุหลาบสัมผัสประสบการณ์เก็บเกี่ยวดอกกุหลาบและคัดดอกกุหลาบด้วยตัวท่านเองกับชาวพื้นเมืองอย่างเป็นกันเองจากแหล่งปลูกดอกกุหลาบที่ขึ้นชื่อภายในสวนดอกกุหลาบของKazanlakซึ่งโดยมากจะทำการเก็บเกี่ยวตอนช่วงพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อให้ได้กลิ่นของกุหลาบที่ดีที่สุดและน้ำมันจากกุหลาบที่มีคุณภาพจากนั้นเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านSkobelevoนำท่านชมศูนย์รวมของชาติพันธุ์วิทยา “Damascena”และโรงกลั่นณ สถานที่ๆรายล้อมรอบไปด้วยสวนกุหลาบอันสวยงาม
ออกเดินทางต่อไปยังKazanlakเพื่อชมขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ของเทศกาลกุหลาบโลกTHE ROSE FESTIVAL IN THE VALLEY OF ROSES ที่จัดขึ้นในเมืองให้ท่านเข้าชม”เทศกาลดอกกุหลาบ” (Rose Festival)เทศกาลนี้เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 1903 และจัดต่อกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบันโดยจะจัดในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนในงานจะคัดเลือกดอกกุหลาบที่สวยที่สุดและหญิงสาวในเมืองที่สวยที่สุดมาร่วมงานมีการประกวดสาวงามประจำเมืองโดยหญิงสาวที่จะสามารถลงประกวดได้นั้นต้องเป็นหญิงสาวที่เรียนจบระดับมัธยมในเมืองคาซานลักเท่านั้นซึ่งผู้ชนะจะได้เป็น “The Queen Of Roses” ร่วมชมขบวนแห่ดอกกุหลาบ (Rose Festival Parade) ที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิในขบวนชาวเมืองจะแต่งกายชุดประจำชาติและโปรยดอกไม้อย่างรื่นเริงสวยงามก่อนจะออกเดินทางไปรับประทานอาหารณสถานที่ปิกนิกที่จัดเตรียมไว้เต็มอิ่มกับบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามพร้อมรับฟังดนตรีพื้นบ้านดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์ชั้นเลิศพร้อมกับรับชมโชว์การแสดงพื้นเมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
มุ่งหน้าสู่พลอฟดิฟ(Plovdiv) เมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดติดอันดับที่2 ของประเทศบัลแกเรียซึ่งตั้งคั่นกลางระหว่างแม่น้ำMaritsa และเขาหกลูกซึ่งจุดนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเมืองและเป็นเมืองที่มีสีสันสวยงามและเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในบัลแกเรียโดยไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่าเมืองนี้เก่าแก่เพียงใดตั้งอยู่และเริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อไหร่วางศิลาฤกษ์เมื่อใดอย่างน้อยๆขั้นต่ำก็มากกว่า 5000 ปีที่ผ่านมาเมืองเก่าPlovdivแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาTrimontiumซึ่งเป็นศูนย์กลางการฟื้นฟูของสถาปัตยกรรมแห่งชาติของชาวบัลแกเรีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำอาหารพื้นเมือง
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักImperial 4* Hotel
วันที่ 8 : Plovdiv–Backovo- Assenovgrad-Brestovitsa(Wine Testing)-Plodiv Tour (06/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านไปยังอาราม Bachkovo ตั้งอยู่ห่างจาก Plovdiv 20กิโลเมตร วัดเป็นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในบัลแกเรียก่อตั้งขึ้นในปี1083 และเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประวัติศาสตร์บัลแกเรีย
นำท่านไปต่อที่ Assenovgrad ป้อมพระมหากษัตริย์อีวานอาเซน ‘s -ผู้ปกครองที่ชาญฉลาดของสองอาณาจักรบัลแกเรีย มีโบสถ์เก่าแก่จากศตวรรษที่ 13 ครั้งวาดด้วยบางชิ้นที่แท้จริงของยึดถือ ที่ด้านบนของป้อมปราการที่เราสนุกกับการที่น่ากลัว 360องศาพาโนรามาทั่ว Rhodope ภูเขาเมือง Assenovgrad ที่ธราเซียนวัลเลย์และการจัดเก็บภาษีช่วงบอลข่านกับ Botev สูงสุดของยอดเขาไกลออกไป หลังจากนั้นโรงกลั่นเหล้าองุ่น Brestovitsa ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายปี 1930 เป็นตัวอย่างที่คลาสสิกของห้องใต้ดินฝรั่งเศสบนพื้นดินที่จะมีทัวร์ชิมและให้บริการอาหารกลางวัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่ BrestovitsaWineHouse
บ่าย นำท่านชมเมืองเก่าพลอฟดิฟ (Plovdiv)ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรมซึ่งทำให้พลอฟดิฟยังคงมีกลิ่นอายของยุคเรอเนสซองจนถึงปัจจุบันสภาพตึกรามบ้านช่องยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งรูปแบบเดิมเป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนชมเมืองเก่าและโรงละครโรมันอายุเก่าแก่กว่าสองพันปีป้อมปราการที่สร้างขึ้นสมัยยุคกลางช่วงไบเซนไทน์และมัศยิดในศตารรษที่ 15 จากนั้นเดินทางไปตามถนนสายเล็กๆที่ปูด้วยหินเที่ยวชมบรรยากาศโดยรอบกับเมืองอันเงียบสงบในเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งนี้โดยนำท่านเดินชมเขตเมืองเก่าบนถนนที่ปูด้วยแผ่นหินแบบโบราณผ่านชมซากโรงละครกลางแจ้งแบบโรมันPhilippopolis Theatre อายุกว่า 2,000 ปีที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสภาโรมัน (Roman Forum)ชมซากป้อมปราการสมัยไบแซนไทน์Assen’s fortress ที่สร้างขึ้นบนหน้าผาในช่วงรัชสมัยจักรพรรดิจัสติเนียนผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่หกเพื่อคุ้มครองถนนโรมันโบราณที่เชื่อมภูมิภาคเทรซกับทะเลอีเจียน
ชมสุเหร่าโบราณDzhumaya Mosqueสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในช่วงการปกครองของออคโตมันเติร์กโดยสร้างทับลงไปบนโบสถ์คริสต์เก่าSt.Petkaใช้เสาขนาดใหญ่สี่เสาคร่อมเหนือโถงใต้ดิน 9 โถงโดมสุเหร่าเคลือบทับด้วยตะกั่วและมีหอขานสูงถึง 23 เมตรโรงอาบน้ำแบบตุรกีโบราณ Turkish Bath อายุย้อนหลังไปในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ปัจจุบันใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรม หลังจากนั้น
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พักImperial 4* Hotel
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
วันที่ 9 : Plodiv – Seven Rila Lakes – Sofia (07/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านไปยังทะเลสาบ Sevan Rila ซึ่งได้ถูกขนานนามว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน Balkan Peninsula สถานที่ที่มีเสน่ห์ที่สมควรที่จะได้เห็น ความงามของทะเลสาบแห่งนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวชาวบัลแกเรีย แต่ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินับพัน ให้ความสนใจและเดินทางมาสัมผัสความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ทะเลสาบ Sevan Rila ตั้งอยู่ในส่วนที่เรียก Dangskiya ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขา Rila (Rila เป็นชื่อจุดยอดที่สูงที่สุงของเทือกเขานี้ จริงแล้ว กลุ่มภูเขานี้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปแต่ละยอกเขา แต่เพราะ Rila เป็นจุดที่สูงที่สุด ของกลุ่มภูเขาในบริเวณนี้ คนทั้วไปเรยเหมารวมไปว่า เป็นเทือกเขา Rila)
ส่วนทะเลสาบ Savan Rila นี้ ก็มีชื่อแยกส่วนไปอีก 7 ชื่อด้วยกัน มีดังนี้ Salzata, Ribnoto, Okoto, Dolnoto, Babreka, Trilistnika, Bliznakaส่วนต่างๆ ของทะเลสาบ Seven Rila ทั้งหมด จะถูกเชื่อมต่อกันด้วยลำห้วยแคบๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ ณ เทือกเขาแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน`( Lunch Box )
บ่าย นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองโซเฟีย (SOFIA) ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือ ระยะทางห่างประมาณ 100 กม. กรุงโซเฟีย เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐบัลกาเรีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องจำนวนประชากรเป็นอันดับที่ 47 ของสหภาพยุโรป ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาวีโตชาทางด้านตะวันตกของบัลแกเรีย เป็นเมืองศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าทางบกที่สำคัญของคาบสมุทรบอลข่าน ในอดีตกว่า 2,400 ปี เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าเซลติค และมีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ในราวศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ซึ่งมีชื่อเรียกเมืองนี้ว่า เซอร์ดิก้า (Serdica) ที่มาจากชนเผ่าเซอร์ดีที่มาตั้งถิ่นฐานที่บริเวณแห่งนี้ นำท่านไปชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย (National Museum of History) ชมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาวบัลแกเรียน มีสิ่งของต่างๆอันล้ำค่าหายากมากมายที่จัดแสดงให้ชม ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 ซึ่งครั้งแรกได้ถูกสร้างเพื่อให้เป็นรูปแบบของงานแสดงสินค้าและต่อมาได้ถูกเปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1984 เพื่อเป็นการระลึกถึงในด้านประวัติศาสตร์ของบัลกาเรียครบ 1300 ปี ซึ่งภายในได้มีการสะลมสิ่งของโบราณประมาณ 650,000 ชิ้น ซึ่งประกอบไปด้วยด้านโบราณคดี ศิลปะที่ประณีตและหายาก ประวัติศาสตร์และเกี่ยวกับชาติพันธุ์ของบรรพบุรุษ นำท่านไปชม อาคารรัฐสภา (Parliament Building) ซึ่งมีคำขวัญที่ผูกใจอยู่เหนือประตูทางเข้าเป็นภาษาบัลกาเรีย ที่มีความหมายว่า รวมกันทำให้เราแข็งแกร่ง (United we are strong) ตึกหลังนี้ได้รับการบูรณะหลังจากที่ได้รับความเสียหายหลายครั้งซึ่งครั้งสุดท้ายได้ถูกบูรณะขึ้นโดยสถาปนิกชาวบัลแกเรีย คอนสแตนติน อิวาโนวิช
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พัก Crystal Palace 4* Hotel
วันที่ 10 : โซเฟีย (Sofia) – Belogradchik – Sofia Tour (08/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เมืองเบโลกราดชิค (Belogradchik) หรือที่มักถูกเรียกขานว่าเป็น “เมืองสีขาวขนาดเล็ก” (Small white town) โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในเขตจังหวัดวิดิน (Vidin) บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาบอลข่าน (Balkan Mountains) ทางตะวันออกของชายแดนเซอร์เบีย (Serbian border ) อยู่ห่างจากแม่น้ำดานูบ (Danube River) ไปทางใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเทือกเขาหิน และป้อมปราการอันลือชื่อ กลุ่มเทือกเขาหินที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสวยงามที่สุดในประเทศบัลแกเรีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย เที่ยวชมเมืองโซเฟียที่มีประวัติยาวนานเก่าแก่กว่า 7000 ปีรวมทั้งเข้าชมAlexander Nevski memorial Cathedralซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) ซึ่งถือเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายออร์โธด๊อกซ์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของภูมิภาคนี้มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกีเป็นมหาวิหารที่การก่อสร้างในแบบโดมหลังคาทรงกลมสีเขียวตกแต่งด้วยหินอ่อนที่วิจิตรตระการตาและนำท่านชมวิวโดยรอบของเมืองโซเฟียนี้แบบซิตตี้ทัวร์อย่างทั่วถึงตั้งแต่มหาวิทยาลัยของโซเฟียสภาพระราชวังThe National Assembly, The Rotunda of St. George, TheBanyaBashi Mosque, The Rotunda of St. George
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ อาหารจีน
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับเข้าสู่ที่พักCrystal Palace 4* Hotelหรือเทียบเท่า
วันที่ 11 : Sofia – Rila Monastery – Sofia Shopping – Airport (09/06/2016)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านชม: อารมมรดกโลกรีล่า(Rila Monastery)ที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรบอลข่านอีกทั้งมีชื่ออยู่ในรายชื่อมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมของยูเนสโกได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอนุสรณ์สถานของบัลแกเรียและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับทั้งบัลแกเรียและยุโรปใต้และมีชื่อเสียงที่สุดในบัลแกเรียอีกทั้งชม14th century Hrelyo Towerซึ่งเป็นโดมทั้งห้าของโบสถ์พระแม่มารีอีกทั้งห้องครัวต้นแบบดั้งเดิมของศตวรรษที่ 19
นำท่านเดินทางไปชมอารามมรดกโลกรีล่า (Rila Monastery)ที่ตั้งอยู่บนเขารีล่า (216 กม. 3 ชม.)ชมอารามของคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดของบัลแกเรียอารามรีล่า (Rila Monastery) ตั้งอยู่บนจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามของภูเขารีล่าที่ระดับความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลสามารถมองเห็นแม่น้ำRilskaและDrushlyavitsaไหลอยู่เบื้องล่างได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมองค์การ UNESCO อารามรีลาก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่10 (พุทธศตวรรษที่15) โดยนักบุญจอห์นแห่งรีลา (St John of Rila) ผู้ถือสันโดษและใช้ชีวิตเข้าอยู่ในถ้ำอย่างเงียบสงบ และได้รับยกย่องเป็นนักบุญโดยนิกายออร์โธดอกซ์อาศรม ซึ่งหลุมศพของท่านกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และได้กลายเป็นอารามซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านจิตวิญญาณและสังคมของบัลแกเรียยุคกลางอารามนี้ถูกทำลายด้วยไฟไหม้ในตอนต้นของคริสต์ศตวรรษที่19 (กลางพุทธศตวรรษที่24) และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ระหว่างคริสต์ศักราช1834-1862 (พุทธศักราช2377-2405) รูปแบบของอารามเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของศิลปะสมัยบัลแกเรียนเรอเนสซองส์ (คริสต์ศตวรรษที่18/19/ พุทธศตวรรษที่23-24) และเป็นสัญลักษณ์แห่งการตระหนักรู้ถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมสลาวิค (Slavic) หลังจากที่ตกอยู่ใต้การปกครองของชนชาติอื่นมานับหลายศตวรรษอารามรีล่าแห่งนี้ถือเป็นเป็นศูนย์กลางของจิตวิญญาณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบัลแกเรียและเป็นจุดหมายในการเดินทางแสวงบุญของคริสต์ศาสนิกชนในนิกายออร์โธดอกซ์จากทั่วโลกที่นักบุญเซนต์อิวานริลสกี้ (St.IvanRilski) แห่งอารามรีล่าซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้เรื่องการกดขี่ทางชาติพันธุ์ในสมัยการยึดครองของจักรวรรดิออตโตมันอารามแห่งนี้ถือเป็นอนุสรณ์สถานของสถาปัตยกรรมและความมั่งคั่งของวัฒนธรรมและศิลปะของบัลแกเรียสัญญลักษณ์รูปเคารพ (Icon) ที่อารามนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดและทำด้วยทองคำแท้เพียงแห่งเดียวในบัลแกเรียนอกจากนี้อารามเป็นแหล่งสะสมทรัพย์สมบัติและวัสดุวรรณกรรมอายุกว่าร้อยปีอีกจำนวนมาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นพาท่าน Shopping
18:00 น. ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินโซเฟีย
20:40 น. ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS794
21:15 น. แวะเปลี่ยนเครื่อง ณ สนามบินเวียนนา (VIE)
23:20น. ออกเดินทางต่อ สู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS25
วันที่ 12 : กรุงเทพ(10/06/2016)
14:30น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการ
**ราคานี้ รวมค่าทำวีซ่าของประเทศโรมาเนีย**
อัตรานี้รวม
อัตรานี้ไม่รวม
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…