LOFT-CL-NZ003_North-South New Zealand 9 Days 7 Night BY TG
อ็อคแลนด์ – อควาเรียมเคลลี่ ทาร์ลตัน – Sky Tower – หมู่บ้านฮอบบิท – อโกรโดม – เทปูเอีย – ถ้ำหนอนเรืองแสง – ไครส์เชิร์ช – แอชเบอร์ตัน – ทะเลสาบเทคาโป – อนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ – ทะเลสาบพูคากิ – ครอมเวลล์ – ควีนส์ทาวน์ – แอร์โรว์ทาวน์ – ล่องเรือกลไฟโบราณ – วอร์เตอร์พีคฟาร์ม – ยอดเขาบ็อบพีค (ขึ้นกระเช้า) – ทะเลสาบวานาก้า – ฮาสท์ – ฟ๊อกซ์ กลาเซียร์ – โฮคิติกา แชนตี้ทาวน์ – นั่งรถไฟทรานส์อัลไพน์
นำท่านเข้าชม ถ้ำไวโตโมโกลว์วอร์ม หรือถ้ำหนอนเรืองแสง (Waitomo Glowworm Caves)โดยถ้ำนี้อยู่ในเขตเมืองไวโตโม (Waitomo) เมืองท่องเที่ยวเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษ ต่อมามีการแพร่กระจายออกไปถึงความงามของถ้ำไวโตโมและหนอนเรืองแสง จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมาย ภายในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของหนอนเรืองแสงนับล้านตัว หนอนเรืองแสงที่ไม่ใช่หนอนจริงๆ แต่เป็นตัวอ่อนของแมลงปีกเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายยุง สามารถปล่อยแสงออกมาจากตัวเพื่อล่อเหยื่อให้บินมาติดกับ ซึ่งหนอนเรืองแสงนี้ดูคล้ายกับแสงสะท้อนจากพุ่มไม้ ตอนกลางคืนตัวอ่อนของหนอนเรืองแสงจะปล่อยเมือกเหนียวๆ ลงมาเป็นสายจากเพดานถ้ำ มองดูคล้ายกลุ่มของเส้นใยไหมอันละเอียด ซึ่งมีมานานกว่า 100 ปี
กำหนดการเดินทาง:
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – อ็อคแลนด์
15.30 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 แถว D 16-19 เคาน์เตอร์สายการบินไทย (TG) เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่านก่อนการเดินทาง
18.45 น. ออกเดินทางสู่เมืองอ็อคแลนด์ (Auckland) ประเทศนิวซีแลนด์ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 491 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง
วันที่ 2 อ็อคแลนด์ (เที่ยวชมเมือง) – อควาเรียมเคลลี่ ทาร์ลตัน – Sky Tower – อิสระช็อปปิ้งถนนควีนสตรีทมอลล์
10.45 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอ็อคแลนด์ (Auckland Airport) เกาะเหนือ ประเทศนิวซีแลนด์
(เวลาท้องถิ่นของนิวซีแลนด์เร็วกว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน “เมนูติ่มซำ”
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองอ็อคแลนด์ (Auckland) ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นเมืองแห่งการแล่นเรือใบ หรือ City of Sails เพราะชาวอ็อคแลนด์นิยมล่องเรือใบโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อ็อคแลนด์เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศด้วยจำนวนประชากรกว่า 1 ล้านคน เป็นเมืองที่สำคัญทางด้านการเรียน การศึกษา และการเงินของนิวซีแลนด์ ชมอ่าวที่สวยงามเต็มไปด้วยเรือนับร้อยลำ นำท่านเข้าชม เคลลี่ ทาร์ลตัน อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ และแอนตาร์กติก เอ็นเคาน์เตอร์ (Kelly Tarltons Underwater world & Antarctic Encounter) โลกใต้น้ำของเคลลี่ ทาร์ลตัน ภายในมีสัตว์น้ำและปลานานาชนิดแหวกว่ายอยู่ในแทงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีทางเลื่อนในท่อแก้วผ่านเข้าไปให้ผู้ชมได้สัมผัสชีวิตขั้วโลกใต้ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสการดำรงชีวิตของนักสำรวจขั้วโลกใต้ ได้ชมฝูงนกเพนกวินซึ่งอาศัยอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิลบ 7 องศาเซลเซียส
จากนั้นนำท่านขึ้นชม หอคอยสกายทาวเวอร์ (SKY TOWER) ที่สูงถึง 328 เมตรโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์สง่างามของอ็อคแลนด์ สกายทาวเวอร์ จัดเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในซีกโลกใต้ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ.1997 โดยด้านบนหอคอยจะสามารถชมทัศนียภาพรอบเมืองอ็อคแลนด์ได้กว้างไกลกว่า 80 กิโลเมตร หอคอยยอดแหลมแห่งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของ สกายซิตี้คอมเพล็กซ์ ซึ่งประกอบไปด้วย คาสิโน ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และโรงแรม เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างไว้คอยให้บริการ
นำท่านเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านพาร์แนล (Parnell) ถนนที่เป็นที่ตั้งของบ้านเรือน ร้านค้าเก่าแก่รุ่นบุกเบิก ให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างอิสระในย่านใจกลางเมืองบนถนนควีนสตรีทมอลล์ วิคทอเรีย มาเก็ตท์ (VICTORIA MARKET) ซึ่งเป็นแหล่งขายสินค้านานาชนิด และร้านค้าปลอดภาษีที่มีสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Langham Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 3 อ็อคแลนด์ – หมู่บ้านฮอบบิท – อโกรโดม – เทปูเอีย ศูนย์วัฒนธรรมชาวเมารี พร้อมทานอาหารที่ปรุงแบบชาวเมารี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาทามาท่า (Matamata) …ระยะทางประมาณ 161 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองชนบทเล็กๆที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาไคไม (Kaimai Ranges) ในเขตไวกาโต้ (Waikato) บนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองถูกรายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า
และฟาร์มโดยเฉพาะฟาร์มที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองชื่อว่า “บ้านฮอบบิท” (Hobbit holes) สถานที่หลักสำหรับถ่ายทำฉากภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงจำนวนหลายเรื่องเช่น ปีเตอร์แจ็คสัน (Peter Jackson) ภาพยนตร์ไตรภาค เดอะลอร์ด ออฟเดอะริงส์ (Lord of the Rings film trilogy) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ตัดสินใจปรับให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง ฮอบบิตัน (Hobbiton) เป็นหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของ แบ๊กเอนด์ อันเป็นเนินสูงอยู่เหนือเขตแบ็กช็อตโรว์ เป็นที่อยู่ของบิลโบ แบ็กกิ้นส์ โฟรโด แบ๊กกิ้นส์ และแซมไวส์ แกมจี ที่นี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของการผจญภัยในนิยายเรื่อง เดอะฮอบบิท และเดอะลอร์ด ออฟ เดอะริงส์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองโรโตรัว (Rotorua) …ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ทันทีที่ท่านเดินทางถึงเมืองโรโตรัว จะสามารถทราบได้ทันทีว่าได้มาถึงเมืองโรโตรัวแล้ว เพราะว่าที่เมืองนี้เราได้จะได้กลิ่นของกำมะถันตลบอบอวนไปทั่วเมือง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะว่าเป็นเมืองที่มีอุณหภูมิความร้อนใต้พื้นดินสูงมาก ทำให้เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อน หรือคนที่นี่มักจะเรียกเมืองนี้ว่าเมืองกำมะถัน (Sulphur City) โรโตรัวถือเป็นเมืองทะเลสาบแห่งที่สอง ที่ชนเผ่าเมารีค้นพบ ทำให้มีชนเผ่าเมารีอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
นำท่านเข้าชม อโกรโดม (Agrodome) ฟาร์มเลี้ยงแกะใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองโรโตรัว ซึ่งปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยนำคณะนักท่องเที่ยวชมโดยรอบของฟาร์ม ที่จัดแต่งอย่างลงตัวและเป็นธรรมชาติฟาร์มแห่งนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองโรโตรัวราว 10 กิโลเมตร เชิญชมการแสดงของแกะพันธุ์ต่างๆ ที่เดินเรียงรายบนเวทีให้ชม และโชว์ความสามารถของสายพันธุ์ให้สัมผัสถึงความน่ารักของการป้อนอาหารเจ้าแกะตัวน้อย ประทับใจกับการชมการสาธิตการตัดขนแกะ และตื่นตาตื่นใจการต้อนแกะโดยสุนัขแสนรู้
จากนั้นนำท่านไปยัง เทปูเอีย (Te Puia) ศูนย์วัฒนธรรม และศูนย์ฝึกหัดงานด้านการฝีมือของชาวเมารีอาทิ เช่น หอประชุมของชาวเมารี การแกะสลักไม้ และการทอเครื่องนุ่งห่ม พร้อมชมบ่อน้ำพุร้อน บ่อโคลนเดือด สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากพลังความร้อนใต้พิภพที่พวยพุ่งจากพื้นดิน และแร่ธาตุต่างๆ ตามธรรมชาติที่เกิดจากพลังความร้อนใต้พื้นดิน ยังมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง บ้านโบราณ และเรือโบราณตั้งแสดง มีการแสดงระบำเมารี และการร้องเพลงให้ได้รับชมรับฟังกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ปรุงแบบชาวเมารี
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Millennium Rotorua หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 4 ถ้ำหนอนเรืองแสง – สนามบินเมืองอ็อคแลนด์ – ไครส์เชิร์ช
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยังเมืองไวโตโม (Waitomo) …ระยะทางประมาณ 141 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ท่านได้เข้าชม ถ้ำไวโตโมโกลว์วอร์ม หรือถ้ำหนอนเรืองแสง (Waitomo Glowworm Caves)โดยถ้ำนี้อยู่ในเขตเมืองไวโตโม (Waitomo) เมืองท่องเที่ยวเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษ ต่อมามีการแพร่กระจายออกไปถึงความงามของถ้ำไวโตโมและหนอนเรืองแสง จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมาย ภายในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของหนอนเรืองแสงนับล้านตัว หนอนเรืองแสงที่ไม่ใช่หนอนจริงๆ แต่เป็นตัวอ่อนของแมลงปีกเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายยุง สามารถปล่อยแสงออกมาจากตัวเพื่อล่อเหยื่อให้บินมาติดกับ
ซึ่งหนอนเรืองแสงนี้ดูคล้ายกับแสงสะท้อนจากพุ่มไม้ ตอนกลางคืนตัวอ่อนของหนอนเรืองแสงจะปล่อยเมือกเหนียวๆ ลงมาเป็นสายจากเพดานถ้ำ มองดูคล้ายกลุ่มของเส้นใยไหมอันละเอียด ซึ่งมีมานานกว่า 100 ปี อีกทั้งถ้ำแห่งนี้ยังเป็นถ้ำหนึ่งเดียวในโลกที่สามารถเห็นดาวได้ทั้งที่อยู่ใต้โลก ภายในถ้ำประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner’s Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และหนอนเรืองแสงที่งดงามอย่างมาก สำหรับการเข้าชมหนอนเรืองแสงมีเป็นรอบๆ ทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00 น. ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 45 นาที
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านไปยังสนามบินเมืองอ็อคแลนด์ (Auckland Airport) เพื่อเดินทางไปสู่ เมืองไครส์เชิร์ช (Christchurch) เกาะใต้ ของประเทศนิวซีแลนด์…ระยะทางประมาณ 181 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง
18.30 ออกเดินทางโดยสายการบินภายในประเทศแอร์นิวซีแลนด์ (Air New Zealand) เที่ยวบินที่ NZ565
19.55 เดินทางถึงสนามบินเมืองไครส์เชิร์ช (Christchurch International Airport) เมืองที่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากอังกฤษ จนได้ชื่อว่า “เป็นเมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ” เป็นเมืองใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Rendezvouse Christchurch หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 5 ไครส์เชิร์ช – แอชเบอร์ตัน – ทะเลสาบเทคาโป – อนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ – ทะเลสาบพูคากิ –ควีนส์ทาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยังเมืองแอชเบอร์ตัน (Ashburton) …ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ ผ่านที่ราบทางการเกษตรอันกว้างใหญ่ สมญานาม “แคนเทอร์เบอรี่” ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเมืองทิมารูและไครส์เชิร์ช คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงแกะ หรือฟาร์มวัว เลี้ยงวัว ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์จากแกะ ขนแกะ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาหารเสริม และของที่ระลึกอื่นๆ เชิญเยี่ยมชมทุ่งราบแคนเทอร์เบอร์รี่ แหล่งเพาะพันธุ์แกะและวัวที่สำคัญของเกาะใต้และช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองจากฟาร์มที่มีชื่อเสียง แวะให้ท่านได้ช็อปปิ้งสินค้าที่ระลึกของนิวซีแลนด์ อาทิ ครีมรกแกะ หรือครีมหน้าเด้ง เซรั่มรกแกะ ช็อคโกแล็ต ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากขนแกะต่างๆ
จากนั้นเดินทางไปยังทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo) …ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง สวยงามและเงียบสงบน้ำในทะเลสาบมีสีเขียวอมฟ้าหรือบางท่านเรียกว่าทะเลสาบสีน้ำนม สีพิเศษนี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับธารน้ำแข็งของภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีไหลลงมาสู่ทะเลสาบ ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ (The famous Collie dog statue) ที่เจ้าของฟาร์มให้ความสำคัญมากเพราะช่วยเจ้าของในการต้อนแกะในฟาร์มอันกว้างใหญ่ และใกล้ๆกันนั้นท่านจะได้เห็นโบสถ์ขนาดเล็กเชิร์ช ออฟ กู๊ด เชพพาร์ด (CHURCH OF GOOD SHEPHERD) โบสถ์ที่เล็กที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ที่ยังคงใช้ในการการประกอบพิธีทางศาสนาอยู่จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางไปยัง ทะเลสาบพูคากิ (Lake Pukaki) …ระยะทางประมาณ 47 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามมากดั่งภาพวาดอีกแห่งหนึ่งของนิวซีแลนด์ จนได้ชื่อว่า Million Dollar View คล้ายๆ กับทะเลสาปเทคาโป คือเป็นน้ำที่ละลายมาจากภูเขาน้ำแข็ง เวลาแดดออก น้ำจะเป็นสีเทอร์ควอยซ์ แต่เวลาไม่มีแดดน้ำเป็นสีน้ำนม มองไปทางภูเขา เห็นเมฆหรือหมอก ลอยต่ำลงมา โรแมนติคมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวมีไอน้ำลอยเหนือน้ำ หมอกลอยมาปะทะกับสันเขา
ผ่านชมอุทยานแห่งชาติเม้าท์คุ้ก (Mt. Cook) ที่เต็มไปด้วย ทุ่งหญ้า ภูเขา และทะเลสาบสีสันสวยงาม เชิญสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม ผ่านชมทัศนียภาพของทัสมัน กลาเซียธารน้ำแข็งสายใหญ่ซึ่งละลายและกัดเซาะเอาก้อนหินขนาดต่างๆกันมากลั่นกรองน้ำตามธรรมชาติจนกลายเป็นน้ำทะเลสาบที่สวยงาม
เดินทางต่อสู่ เมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown) …ระยะทางประมาณ 209 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ชื่อ The Remarkables อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามบนชายฝั่งของทะเลสาบวาคาติปู ทำให้วิวทิวทัศน์งดงามราวกับภาพฝัน เหมาะเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวของคนทั่วไป และคู่ฮันนีมูนที่ต้องการความโรแมนติกแบบส่วนตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Copthorne Queenstown หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 6 แอร์โรว์ทาวน์ – ล่องเรือกลไฟโบราณ – วอร์เตอร์พีคฟาร์ม – ยอดเขาบ็อบพีค (ขึ้นกระเช้า)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านไปยังเมืองแอร์โรว์ (Arrowtown) …ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ชมเมืองเล็กๆน่ารักๆ มีสีสันสดใส รวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ร้านค้าของที่นี่มีการรักษาสภาพไว้ให้คงเหมือนตอนยุคขุดทองมากที่สุด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้รู้สึกมาย้อนประวัติศาสตร์กับเมืองเล็กๆนี้ ที่นี่เคยเป็นเมืองร่ำรวยมาก่อน เพราะมีการค้นพบสายแร่ทองคำ ที่แม่น้ำแอร์โรว์ ในปี ค.ศ.1862 เป็นเหตุให้นักขุดทองทั่วโลกมุ่งหน้ามาตื่นทองกันที่นี่ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับมาที่เมืองควีนส์ทาวน์
10.00 น. นำท่านล่อง เรือกลไฟโบราณทีเอสเอส เอรินสลอว์ (TSS EARNSLAW) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Lady of The Lake เป็นเรือกลไฟโบราณที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 เรือแห่งนี้เป็นเรือในดวงใจของชาวเมืองควีนส์ทาวน์และยังคงใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนเรือลำดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งถ่านหิน แต่มาในสมัยปัจจุบันได้ปลดละวาง และนำมาใช้เพื่อเป็นเสมือนไกด์ผู้ทรงเกียรติพานักท่องเที่ยวล่องชมธรรมชาติในทะเลสาบวาคาทีปู ตลอดระยะเวลาประมาณ 40 นาที ในการล่องเรือท่านจะได้สัมผัสบรรยายอันสวยงามและธรรมชาติที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจ หากท่านอยากจะหลบเข้ามาด้านในของเรือก็มีมุมให้ท่านนั่งฟังเสียงเปียโนบนเรือ ที่จะมีผู้บรรเลงขับกล่อมตลอดการเดินทาง อีกทั้งภายในเรือยังมีมุมนิทรรศการขนาดย่อมที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการสร้างเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางถึงจุดหมายสำคัญคือ ฟาร์มที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวาคาติปู ฟาร์มสวยแห่งนี้มีชื่อว่า “วอร์เตอร์พีคไฮคันทรีฟาร์ม” (Walter Peak) ฟาร์มสุดอลังการบนเนินเขาสำหรับคนที่รักธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเย็นตา ฟาร์มแห่งนี้อุดมไปด้วยหมู่มวลแกะมากมาย เป็นฟาร์มสำหรับเลี้ยงแกะ สำหรับตัดขนแกะแบบดั้งเดิมขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่อนุรักษ์รูปแบบการอยู่อาศัยแบบเก่าของนิวซีแลนด์ ฟาร์มแห่งนี้ถูกเรียกว่าเป็น”บ้านไร่แห่งควีนทาวน์” ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงฟาร์มแห่งนี้จะเปรียบเสมือนได้หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองสู่ชานเมืองที่เงียบสงบ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้ลิ้มลองบาบิคิวเลิศรสที่ต้อนรับในฟาร์มแห่งนี้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว ณ วอร์เตอร์พีคไฮคันทรีฟาร์ม
นำท่านขึ้นกระเช้าสกายไลน์ กอนโดล่า (SKYLINE GONDOLA) เพื่อขึ้นสู่ ยอดเขาบ็อบพีค (Bob’s Peak) ระหว่างทางที่ขึ้นสู่ยอดเขา ยอดเขาดังกล่าวท่านจะได้ชมวิวแบบพาโนรามาของเมืองควีนส์ทาวน์และทะเลสาบวาคาติปู (WAKATIPU) ในมุมสูง เป็นความงามสุดประทับใจที่หาชมได้ยาก ซึ่งด้านหลังของทะเลสาบท่านจะได้เห็น เดอะรีมาร์คะเบิล เรียงไล่ระดับกันเป็นทิวแถว การนั่งกระเช้ากอนโดล่าสามารถนั่งได้ครั้งละ 4 คน เป็นกระเช้าที่มีความปลอดภัยสูง ใช้เวลาในการเดินทางถึงยอดเขาประมาน 10 นาที เมื่อท่านขึ้นไปถึงสุดยอดเขา ท่านจะได้พบกับความอลังการของวิวทิวทัศน์ซึ่งจะเห็นทะเลสาบและภูเขาพร้อมๆกัน หากวันใดที่น้ำในทะเลสาบนิ่ง ท่านจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของวิวภูเขาซึ่งสะท้อนอยู่ในทะเลสาบ จุดนี้จึงเป็นหนึ่งใน MUST HAVE เมื่อท่านเดินทางมาถึงยังเมืองควีนส์ทาวน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้พักผ่อน เพลิดเพลินชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์นานาชาติ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Copthorne Queenstown หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 7 ควีนส์ทาวน์ – ครอมเวลล์ – ทะเลสาบวานาก้า – ฮาสท์ – ฟ๊อกซ์ กลาเซียร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองครอมเวลล์ (Cromwell) …ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที เมืองเล็กๆอีกแห่งหนึ่งที่มีเสน่ห์แบบล้นหลามกับการเป็นดินแดนแห่งผลไม้อร่อย และเป็นแหล่งที่เพาะปลูกผลไม้ที่สำคัญของนิวซีแลนด์มาช้านาน ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อผลไม้นานาชนิดไม่ว่าจะเป็นผลไม้สดหรือแห้งเช่น ลูกพีช, กีวี, เชอร์รี่ เป็นต้น สวนผลไม้นี้เป็นของป้าโจนส์ที่เนรมิตสวนสวรรค์ของผลไม้นานาชนิดไว้บนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านได้เลือกชิมและซื้อกลับบ้านอย่างอร่อยอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบวานาก้า (Lake Wanaka) …ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ทะเลสาบน้ำใสและเย็น ในทะเลสาบจะมีเป็ดตัวน้อยใหญ่ ว่ายไปมาดูแล้วเพลินตามากๆ นอกจากนั้นบริเวณทะเลสาบยังมีหาดทรายสั้นๆ ปูทางสู่ท้องน้ำที่ทอดตัวออกไปไกลจรดแนวเขาสูง อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบผืนน้ำอันกว้างขวางแห่งนี้ดูแล้วสวยงามมากยิ่งขึ้นเมื่อมีภาพของเรือยอร์ช จำนวนหลายๆลำทอดสมอจอดอยู่ และยังมีสนามเด็กเล่นให้ครอบครัวได้มาใช้เวลาเล่นกันในวันที่อากาศดีๆ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองฮาสท์ (Haast) …ระยะทางประมาณ 142 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง ผ่านทะเลสาบและภูเขาสูงที่สวยงามเป็นภาพที่ท่านจะประทับใจตลอดสองข้างทาง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบตะวันตก ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ธารน้ำแข็งที่อยูในเวสต์แลนด์ เนชั่นแนลปาร์ก นั่นคือ “ธารน้ำแข็งฟ็อกซ์ หรือฟ๊อกซ์ กลาเซียร์” (Fox Glacier) …ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง มีความสวยงามอยู่ในเขตป่าฝน พบกับความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็งที่เคลื่อนลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษ และยังคงเคลื่อนตัวอย่างไม่หยุด ธารน้ำแข็งนี้มีสีขาวระยิบระยับ สลับกับสีเขียวมรกตอันงดงาม สำหรับจุดชมธารน้ำแข็งฟ็อกซ์แบบชัดๆ จะอยู่เลยจากจุดชมวิวทะเลสาบแม็ททีสันไปอีกแค่นิดเดียว พอเจอสะพานแล้วมองย้อนกลับมาจะเห็นธารน้ำแข็งได้อย่างชัดเจน สวยงามแทบจนไม่อยากกระพริบตาเลย (สำหรับท่านที่สนใจบินสำรวจ Fox Glacier โดยเฮลิคอปเตอร์ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์เพื่อเช็คราคาและต้องจองล่วงหน้า)
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Heartland Fox Glacier หรือระดับเทียบเท่า และรับประทานอาหารค่ำแบบตะวันตก ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันที่ 8 โฮคิติกา – แชนตี้ทาวน์ – นั่งรถไฟทรานส์อัลไพน์ – ไครส์เชิร์ช
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองโฮคิติกา (Hokitika) …ระยะทางประมาณ 157 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางผ่านเมือง ฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef) เส้นทางเฮ้าด์พาส เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อมากในเรื่องธารน้ำแข็ง จึงทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของฝั่งตะวันตก เดิมใช้เป็นเส้นทางการเดินทางของชาวเมารี ซึ่งต้องใช้เวลาการเดินทางเป็นแรมเดือน และต่อสู้กับสภาพอากาศอันหนาวเย็นเพื่อแสวงหาแหล่งกำเนิดหยกหรือกรีนสโตน จากนั้นเดินทางถึงเมืองโฮคิติกา (Hokitika) ที่ตั้งอยู่ริมทะเล เป็นศูนย์กลางทางการค้าของฝั่งตะวันตกในสมัยก่อน มีหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นเมืองที่มีความชำนาญเรื่องศิลปะและศูนย์กลางการผลิตหินสีเขียวหรือหยก ซึ่งมีความสำคัญด้านจิตวิญญาณเป็นอย่างมากสำหรับชาวเมารี เพราะนานมาแล้วเคยเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งที่สุดที่ชาวเมารีรู้จัก ถูกนำมาใช้ทำอาวุธเครื่องมือและเครื่องประดับส่วนตัว เชื่อกันว่าหินสีเขียวนี้จะช่วยรักษาความสงบ แข็งแรง จะนำอำนาจมาสู่ตนและครอบครัว เชิญชมเมืองแห่งหยกสีเขียวและซื้อหยกของฝาก
จากนั้นนำท่านไปยัง เมืองจำลองยุคขุดทองแชนตี้ทาวน์ (SHANTY TOWN) …ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ซึ่งจำลองเป็นเหมืองขุดทองเก่า มีรถจักรไอน้ำให้นั่งชมทัศนียภาพและมีการสาธิตการร่อนทอง ให้ท่านได้ทดลองร่อนทองและเก็บเป็นของที่ระลึก เพลิดเพลินกับเมืองจำลองในยุคขุดทอง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ ณ ภัตตาคาร
รถบัสนำท่านไปยังสถานีรถไฟอาเธอร์พาส (Arthur Pass) …ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อนำท่านเดินทางกลับไปสู่เมืองไครส์เชิร์ช (Christchurch) ด้วยรถไฟทรานส์อัลไพน์ (Tranz Alpine Train) ที่สะดวกและสะอาดเหมือนในยุโรป เป็นรถไฟสายเดียวที่เชื่อมผ่านเทือกเขาต่างๆ ถึง 8.5 กม. ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 15 ปี ชมทัศนียภาพอันงดงามที่สุดในนิวซีแลนด์ ซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขาหิมะสลับกับภูเขาเขียวขจีบนยอดเขา ความงามของเทือกเขาแอลป์แห่งซีกโลกใต้ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเส้นทางซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขาหิมะและต้นไม้หลากสีเปลื่ยนไปตามฤดูกาลที่สวยที่สุดและฝูงแกะน่ารักยืนเรียงรายเล็มหญ้าชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามดั่งภาพวาดเพลิดเพลินไปตลอดสองข้างทางจนถึง เมืองไครส์เชิร์ช (Christchurch)
(ขบวนรถไฟออกเวลา 16.28 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน เมนูพิเศษกุ้งมังกร+หอยเป่าฮื้อทะเลใต้
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Chateau on the park Christchurch หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 9 ไครส์เชิร์ช – อ็อคแลนด์ – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะออกเดินทางสู่สนามบินเมืองไครส์เชิร์ช (Christchurch International Airport) เพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินเมืองอ็อคแลนด์
9.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองอ็อคแลนด์ (Auckland Airport) โดยสายการบินภายในประเทศ แอร์นิวซีแลนด์ (Air New Zealand) เที่ยวบินที่ NZ530
10.25 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอ็อคแลนด์ (Auckland Airport) จากนั้นคณะรอเปลี่ยนสายการบิน เพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯโดยสายการบินไทย
13.10 น. ออกเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 492 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12.15 ชั่วโมง
20.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
กำหนดการเดินทาง:
อัตราค่าบริการ ราคารวมตั๋วเครื่องบิน
ราคาทัวร์รวม
ราคาทัวร์ไม่รวม
เงื่อนไขการจองทัวร์และการชำระเงิน
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…