LOFT-EUR-57_BEST OF FRANCE 10 DAYS
ชมภายในชาโตเชอนงโซ Château de Chenonceau สร้างบนฝั่งแม่น้ำแชร์ และสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานทางเอกสาร เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ออกแบบโดยฟิลแบรต์ เดอลอร์ม สถาปนิกเรอเนซองส์ตระกูลเมเนียร์ Menier ลักษณะของสถาปัตยกรรมของเชอนงโซ เป็นแบบผสมระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิค และสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ตอนต้น ลานด้านหน้าวางแบบลานปราสาทยุคกลางล้อมรอบด้วยคูน้ำ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ทำจากไม้แกะสลัก ด้านในเป็นชาเปล โดดเด่นด้วยหน้าต่างประดับกระจกสี, ห้องบรรทม, ห้องกรีน เป็นลักษณะศิลปะแบบโกธิคและเรอเนซองส์ ห้องรับรอง, ห้องบรรทมพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1, ห้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และห้องโถงตกแต่งด้วยเพดานโค้งสันที่มีหินหลัก แยกจากกันเป็นเส้นขาด ถือว่าเป็นห้องที่แกะสลักที่สวยที่สุดห้องหนึ่งในการตกแต่ง แบบเรอเนซองส์แบบฝรั่งเศส
โปรแกรมทัวร์แกรนด์ฝรั่งเศส ทัวร์ฝรั่งเศสเจาะลึก 10 วัน 10-19 กุมภาพันธ์ 2560 มองติกาโล รัฐโมนาโก ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศส โรงงานน้ำหอม ท่อส่งน้ำโรมัน ปงต์ดูการ์ เมืองโบราณการ์กาซอน เมืองแห่งปราสาทลุ่มน้ำลัวร์ มงต์แซงต์มิเชล อนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามโลก
10 ก.พ. 59 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – สนามบินมาเพนซ่า กรุงมิลาน (อิตาลี) ศุกร์
22.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 3 เคาน์เตอร์ D (9-12) สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
11 ก.พ. 60 มิลาน – ดูโอโม่ – แกลลอรี่วิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล – มองติกาโล (รัฐโมนาโก) – นีซ – ริเวียร่าแห่งฝรั่งเศส เสาร์
00.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงมิลาน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG940
07.10 น. สนามบินมาเพนซ่า ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว รถโค้ชรอรับคณะเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองมิบาน เมืองแห่งแฟชั่นที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก
นำท่านชมดูโอโม มหาวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรปและอันดับสี่ของโลกสร้างขึ้นตามสไตล์โกธิคมีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากทุกยุคทุกสมัยกว่า 3,200 ชิ้น ในยุครุ่งเรืองสุดขีด ซึ่งนับเป็นสิ่งบ่งบอกให้เห็นถึงความแปลกแยก ระหว่างเมืองมิลานกับเมืองอื่นๆ ของอิตาลี นอกจากนี้มิลานยังได้ชื่อว่ามีสถานที่สำคัญระดับสุดยอดของโลกอันได้แก่ อาคารแกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล ซึ่งเป็นห้างอันเก่าแก่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมอันทันสมัย “โรงละครสกาล่า” โรงละครโอเปร่าบนจัตุรัสเดลลา สกาลา บันทึกภาพกับรูปปั้นของศิลปินเอก ลีโอนาโด ดาวินชี
09.30 น. จากนั้นนำคณะเดินทางมุ่งลงใต้ เลาะเลียบเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีชายหาดริเวียร่าที่โด่งดัง เป็นทั้งเมืองตากอากาศทางตอนเหนือของอิตาลีและทางใต้ของฝรั่งเศส ผ่านเขตเมืองที่มีการปกครองตนเองอาทิ ซานเรโม, รัฐโมนาโก หรือ ไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายทำให้เมืองมอนเตกาโล (Monte-CarLo) กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของยุโรป ซึ่งเศรษฐีนิยมมาเที่ยวกัน (307 ก.ม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย จากนั้นเดินทางเข้าสู่มอนเตกาโล เที่ยวชมโมนาโก เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้า, และทิวเขาอันงดงาม ผ่านชมมหาวิหารที่เคยใช้จัดงาน พระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซ-เคลลี แห่งโมนาโคสตรีผู้สูงศักดิ์ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยาย จากหญิงสาวธรรมดา ที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในราชวัง วันนี้เธอเป็นตำนานที่ไม่ใช่เพียงเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แต่เธอนำพาชื่อเสียงให้โมนาโกเป็นที่รู้จัก ด้านสาธารณะประโยชน์ องค์กรการกุศลต่าง ๆ มากมาย แล้วไปถ่ายรูปกับปาเล เดอ แปรงซ์ (Palais De Princes) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ สร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อกท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม
แล้วไปชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่าเรือสองแห่งคือ Port De Fontvieille และ Port Hercule ท่าจอดเรือยอร์ชอันหรูหราแสดงถึงความมั่งคั่งและร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้ จนได้เวลาอันสมควรนำคณะออกเดินทางสู่เมืองนีซ (Nice) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศฝรั่งเศสในแคว้นที่ชื่อว่า โพร วองซ์-แอลป์-โกต-ดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d’Azur) ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายหาดหินที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินกันอยู่ที่ถนนเรียบชายหาดลา-พรอมมินาด-เด-ซองเกส (La Promenade des Anglais) เขตย่านเมืองเก่า จัดได้ว่าเป็นเมืองที่น่าเดินชมบรรยากาศแบบชาวโพรวองซ์เป็นอย่างยิ่ง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU HOTEL NICE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.radissonblu.com
12 ก.พ. 60 นีซ – กราซ – โรงงานน้ำหอม – คานส์ – เอ็กซองโพรวองซ์ – เลโบเดอโพรวองซ์ – อาวีญง อาทิตย์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. เดินทางสู่เมืองกราซ (Grasse) หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองหลวงแห่งโลกน้ำหอม” การผลิตน้ำหอมทั้งหลายส่วนใหญ่เริ่มต้นที่นี่โรงงานผลิตน้ำหอมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เปิดให้ท่านได้ชมเรื่องราวและขั้นตอนการผลิต จากนั้น พาท่านเที่ยวชมเมืองคานส์ เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติที่จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้าปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais des Festivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ยังเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงาม ๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย (41 ก.ม.)
จากนั้น เดินทางต่อสู่เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ Aix-en-Provence ในอดีตเคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เป็นศูนย์ กลางของอำนาจ ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ถึง 600 ปี ถนนมิราโบ le cour Mirabeau เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูและร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส เมืองนี้โด่งดังจากภาพวาดภูเขาแซงก์ วิกตัวร์ Saint Victoire ที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงามของภูมิทัศน์ ผลงานของศิลปินชื่อก้องโลก ปอล เซซาน Paul Cézanne ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองนี้ (151 ก.ม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองเลโบเดอโพรวองซ์ Les Baux de Provence เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” จากนั้นคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอาวีญง Avignon เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรห์น (69 ก.ม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL AVIGNON CENTER HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.novotel.com
13 ก.พ. 60 อาวีญง – ท่อส่งน้ำโรมัน ปงต์ดูการ์ – มงเปลีเย่ – เมืองโบราณการ์กาซอน จันทร์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. เที่ยวชมเมืองอาวีญง (Avignon) เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโรน (Rhône) และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปา (Palais des Papes) ที่ได้ย้ายที่พำนักมาที่นี่ในระหว่างปี ค.ศ.1309-1423 เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าศาสนา ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของแคว้น นอกจากนี้ยังมีสะพานที่มีชื่อเสียงคือ สะพานเซนต์เบเนเซ่ (Pont Saint-Bénézet) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสะพานแห่งเมืองอาวีญงสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1177
จากนั้นออกเดินทางสู่เขตหุบเขาแม่น้ำโรน แม่น้ำสายสำคัญของภูมิภาคนี้ ผ่านชมไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงชาโตเนิฟ-ดูเปบ ไร่องุ่นที่เลื่องชื่อในการผลิตไวน์ขาว และไวน์แดง แล้วนำท่านไปชมปงต์ ดู การ์ (Pont du Gard) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว คือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตร สามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่าง เมือง Uzès และเมือง Nîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1985
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เดินทางต่อสู่เมืองอาร์ก Arles ชมสนามต่อสู้ของชาวโรมัน Arène d’Arles ความจุ 25,000 ที่นั่งอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีและโรงละครสมัยโรมัน (le théâtre antique) ได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกของ UNESCO เมื่อปี 1981 เสน่ห์ของเมืองนี้เป็นที่หลงใหลของแวนโก๊ะ หรือวินเซนต์ แวนโก๊ะ ได้มาพำนักอาศัยอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองมงเปลีเย่ เส้นทางนี้ร่มรื่นสวยงาม ลัดเลาะผ่านไร่องุ่น สองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ เขตนี้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์กอร์บีแยร์และมีแนร์วัว ซึ่งเป็นไวน์แดงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองการ์กาซอนในแคว้นล็องก์ดอค-รูซียง Languedoc-Roussillon มีที่ราบสูง Massif Central และเทือกเขาปีเรเน่เป็นฉากหลัง มีแสงแดดอันอบอุ่นเกือบตลอดปี เส้นทางสายวัฒนธรรมที่สืบสานมาตั้งแต่ครั้งก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคโรมันที่จะเห็นได้จากร่องรอยของกำแพงเมือง และป้อมปราการอันแข็งแกร่งในยุคกลาง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE CARCASSONNE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.mercure.com
14 ก.พ. 60 การ์กาซอน – บอร์โด – ไวน์เอสเตท POMEROL & SAINT EMILION อังคาร
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่เมืองบอร์โด Bordeaux เมืองหลวงของแคว้นอากีแดน เป็นเมืองท่าใกล้ชาย ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส มีแม่น้ำการอนไหลผ่านออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่เมืองซูลัก-ซูร์-แมร์ เขตท่าเรือปอร์ตเดอลาลูน Port de la Lune ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกในปี 2007 ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 บอร์โดมีชื่อเสียงและเป็นแหล่งผลิตไวน์คุณภาพที่จัดอยู่ในกลุ่ม AOC (Appellation d’Origine Contrôlée) ซึ่งไวน์ดี ๆ ของฝรั่งเศส มักจะอยู่ในกลุ่มนี้ (330 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย นำคณะเดินทางสู่เขตพื้นที่การผลิตไวน์อีกแห่งหนึ่งแซ็ง-เตมีลียง Saint-Emilion นับเป็นเขตพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้น ซี่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตมรดกโลกในปี 1999 ในฐานะที่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูมิทัศน์ ไร่องุ่นประวัติศาสตร์ ที่รักษาสภาพที่สวยงามจากอดีตถึงปัจจุบัน และยังคงทำการเพาะปลูกองุ่นที่ยังคงรักษาคุณภาพองุ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตไวน์ในภูมิภาคไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีการกำหนดมาตรฐานการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพอย่างเคร่งครัด จากอดีตจนถึงปัจจุบันไวน์แซ็งเตมีลียง ได้รับการยกย่องว่าเป็นไวน์ที่มีคุณภาพเป็นเลิศ มีรสชาตินุ่มนวล สีสันสดใส และบ่มได้คุณภาพมากที่สุดของบอร์โด ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตได้เป็นจำนวนน้อยแต่คุณภาพที่ได้นั้นกลับตรงกันข้าม
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ Pomerol เขตพื้นที่การทำไร่องุ่นที่เล็กที่สุดในเมืองบอร์โด ด้วยเนื้อที่การทำไร่องุ่นเพียง 5,000 ไร่ นำท่านชมขั้นตอนการผลิตไวน์ และ wine tasting ที่มีการผสมจากพันธุ์องุ่นถึง 3 ชนิดได้แก่ Merlot 75%, Cabernet Franc 18% และ Cabernet Sauvignon 7%
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE BORDEAUX CENTRE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.mercure.com
15 ก.พ. 60 บอร์โด – นั่งรถไฟ TGV สู่เมืองตูร์ เมืองแห่งปราสาทลุ่มน้ำลัวร์ – ชาโตเชอนงโซ – ชาโตชองบอร์ด พุธ
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
07.26 น. เดินทางสู่เมืองตูร์ โดยรถไฟด่วน TGV
10.09 น. คณะถึงเมืองตูร์ Tours ในเขตแม่น้ำลัวร์ทางตอนเหนือและแม่น้ำแชร์ทางตอนใต้ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน จัตุรัสเมืองเก่า เรียงรายไปด้วยบ้านกึ่งไม้ซุงที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง เป็นเมืองคลาสสิคที่น่าชมอีกเมืองหนึ่ง จากนั้น รถโค้ชรอรับคณะและนำท่านเดินทางสู่ชาโตเชอนงโซ
11.00 น. คณะเดินทางถึงลุ่มแม่น้ำลัวร์ นำคณะเข้าชมภายในชาโตเชอนงโซ Château de Chenonceau สร้างบนฝั่งแม่น้ำแชร์ และสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานทางเอกสาร เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ออกแบบโดยฟิลแบรต์ เดอลอร์ม สถาปนิกเรอเนซองส์ตระกูลเมเนียร์ Menier ลักษณะของสถาปัตยกรรมของเชอนงโซ เป็นแบบผสมระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิค และสถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ตอนต้น ลานด้านหน้าวางแบบลานปราสาทยุคกลางล้อมรอบด้วยคูน้ำ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ทำจากไม้แกะสลัก
ด้านในเป็นชาเปล โดดเด่นด้วยหน้าต่างประดับกระจกสี, ห้องบรรทม, ห้องกรีน เป็นลักษณะศิลปะแบบโกธิคและเรอเนซองส์ ห้องรับรอง, ห้องบรรทมพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1, ห้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และห้องโถงตกแต่งด้วยเพดานโค้งสันที่มีหินหลัก แยกจากกันเป็นเส้นขาด ถือว่าเป็นห้องที่แกะสลักที่สวยที่สุดห้องหนึ่งในการตกแต่ง แบบเรอเนซองส์แบบฝรั่งเศส (33 ก.ม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย รถโค้ชรอรับคณะแล้วเดินทางสู่ชาโตชองบอร์ด มหาปราสาทแห่งลุ่มน้ำลัวร์ มีแม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศสคือ 1,013 กิโลเมตร สองฟากฝั่งมีปราสาทหรือชาโต Chateau ของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ ในจำนวนทั้งหมดชาโตชองบอร์ด Chambord นับเป็นความปรารถนาสูงสุดของนักท่องเที่ยว พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1519 หลังนำทัพไปชนะอิตาลีที่เมืองมิลานเพื่อไว้รับรองพระสหาย และไว้เป็นที่ประทับเมื่อมาล่าสัตว์ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เป็นผู้ร่างโครงสร้าง
ต่อมาภายหลัง Dominigue de Cortone สถาปนิกฝรั่งเศสและทีมงาน ได้นำเค้าโครงสร้างนี้ไปปรับปรุงเป็นแบบสมบูรณ์ ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่า ที่มีอาณาเขตถึง 13,500 เอเคอร์ ไม้ที่ทำโครงและพื้นเป็นไม้โอ๊กจากป่าบริเวณปราสาท หลังคาและส่วนตกแต่งที่เลียนแบบจากหินอ่อน ด้านหน้าทางเข้าปราสาทเป็นลานกว้างบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ ฟรองซัวส์ที่ 1 ด้านหลังเป็นโบสถ์ และที่ประทับของกษัตริย์ ทางขึ้นปราสาททำเป็นบันไดวนออกแบบโดยดาวินชี มีช่องบันไดซ้อนกันอยู่ทำให้ขึ้นและลงแยกจากกันได้เป็นอิสระ ได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก (57 ก.ม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALLIANCE HOTEL TOURS หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.alliance-hotel-tours.com
16 ก.พ. 60 ตูร์ – มงต์แซงต์มิเชล – แซงต์มาโล พฤหัสบดี
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำคณะออกเดินทางสู่เมืองมงต์แซงต์มิเชล (Mont Saint-Michel) อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับ 3 ของประเทศฝรั่งเศส (269 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองมงต์แซงต์มิเชล (Mont Saint-Michel) ที่ตั้งของศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม อยู่บนเกาะในเขตแคว้นนอร์มังดี สถานที่แห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1979 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับ 3 ของฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซายน์
มงต์แซงต์-มิเชล สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ตลอดการสร้างจนปี ค.ศ.966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่สูงจากระดับน้ำทะเล 75 เมตร จากนั้นมีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัย เมื่อครั้งที่แคว้นนอร์มังดีเจริญรุ่งเรือง จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองแซงต์มาโล St. Malo
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก OCEANIA HOTEL ST.MALO หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.oceaniahotels.com
17 ก.พ. 60 แซงต์มาโล – ก็อง – อนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามโลก – รูอ็อง – ปารีส ศุกร์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. คณะออกเดินทางสู่เมืองก็อง (Caen) ชมทัศนียภาพของเมืองจากแนวกำแพงของปราสาทก็อง ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในครั้งอดีต นำคณะเข้าชมอนุสรณ์สถานแห่งสงครามโลก Memorial de Caen ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีอาคารกว่า 200,000 หลังถูกทำลาย ผู้คนเสียชีวิตนับแสนและบาดเจ็บอีกมากมาย การจัดแสดงเรื่องราวการยกพลขึ้นบกในวันดีเดย์ ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแคว้นนอร์มังดีทั้งสิ้น ตลอดจนเรื่องราวของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนแรกจนถึงปัจจุบัน (170 ก.ม.)
จากนั้นนำท่านชมมหาวิหารรูอ็อง (Rouen Cathedral) โมเนต์ได้วาดภาพวิหารแห่งนี้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน โมเนต์เปลี่ยนผ้าใบที่ใช้วาดผืนแล้วผืนเล่า แสงที่สาดส่องบนวิหารก็เปลี่ยนตามไปด้วยภาพเขียนคอลเล็คชั่นนี้มีทั้งหมด 28 ภาพ จากนั้นไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองคือโบสถ์โจน ออฟ อาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่ที่ โจน ออฟ อาร์คถูกเผาทั้งเป็นวีรสตรีของฝรั่งเศสถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็นเมื่ออายุได้เพียง 19 ปี (131 ก.ม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำคณะเดินทางเข้าสู่กรุงปารีส ระหว่างทางแวะหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบทที่ชื่อว่า จิแวร์นี (Giverny) เพื่อชมบ้านโมเนต์ (จากด้านนอก) ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ที่โด่งดัง **บ้านโมเน่ต์ เปิดให้เข้าชมในระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 1 พ.ย. 2560
ดังโปรแกรมทัวร์ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม-23 มีนาคม 2560 จะไม่รวมค่าเข้าชมบ้านโมเน่ต์** (148 ก.ม.)
17.00 น. คณะเดินทางถึงกรุงปารีส ศูนย์กลางการออกแบบและแฟชั่นของโลก มหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกสำหรับอีกหลายๆ คน หากมีเวลาอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ที่โด่งดังของฝรั่งเศส อาทิ สินค้าประเภท น้ำหอม, เครื่องสำอางค์, เครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายในร้าน Duty Free ที่คืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะหรือแบรนด์ชั้นนำของฝรั่งเศสและอิตาลีในห้างสรรพสินค้าแกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ ย่านถนนออสแมนบูโลวาร์ด
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Thai
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL CATALOGNE PARIS GARE MONTPARNASSE หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.hotel-montparnasse.com
18 ก.พ. 60 ปารีส – เดินทางกลับกรุงเทพฯ เสาร์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินสนามบินชาร์ลเดอโกล กรุงปารีส เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
12.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG931
19 ก.พ. 60 เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ อาทิตย์
06.00 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
PERIOD
ราคาทัวร์ต่อท่าน
ค่าทัวร์รวม :
ค่าทัวร์ไม่รวม :
การจองทัวร์ (How to make your reservation)
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…