LOFT-EUR-59_INSIGHT THE WORLD HERITAGE SITE 10 DAYS
เข้าสู่เมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองดูบรอฟนิกเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานามไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง, สร้างโบสถ์, วิหาร สร้างจัตุรัสและน้ำพุ บ้านเรือนต่างๆ ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน
วันแรก ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – สนามบินเวียนนา ศุกร์
21.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 4 เคาน์เตอร์ D16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านกระเป๋าและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก
วันที่สอง เวียนนา – กราซ – ชลอสเบิร์ก – เที่ยวเมืองกราซ – ลูบลิยานา – เบลด (สโลเวเนีย) เสาร์
01.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยการบินไทยเที่ยวบินที่ TG936
07.15 น. คณะเดินทางถึงสนามบินกรุงเวียนนา หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองกราซ ได้รับเลือกโดย UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก และเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปปี ค.ศ. 2003 กราซ เป็นเมืองที่มีการดูแลรักษาสถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศดีๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ใจกลางเมืองมีภูเขาตั้งโดดเด่นคือ The Schlossberg ที่อุดมไปด้วยต้นไม้ นำคณะขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Funicular) สู่จุดชมวิวบนยอดชลอสเบิร์ก เป็นที่ตั้งของหอนาฬิกาและหอระฆังลิสเซอร์ ที่อยู่บนยอดเขา เป็นจุดแลนด์มาร์กและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ท่ามกลางต้นไม้และป้อมปราการขนาดใหญ่ ยังมีปราสาทที่มีอายุกว่า 1,000 ปีที่มาของชื่อเมืองในภาษาสลาฟซึ่งแปลว่า ปราสาทหลังเล็ก ในปี ค.ศ.1809 ได้รอดพ้นจากคำสั่งทำลายเมืองของนโปเลียน จากนั้นนำทานเที่ยวชมเขตเมืองเก่าดั้งเดิมที่ตั้งมานานหลายศตวรรษแล้วเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมต่างๆ จากทุกสมัย สิ่งก่อสร้างแบบโมเดิร์นได้ถูกสร้างขึ้นมา อาทิเช่น Kunsthaus (บ้านของโมเดิร์นอาร์ต) และเกาะในแม่น้ำมูร์ ปัจจุบันเมืองกราซเต็มไปด้วยเสน่ห์ของการผสมผสานบรรยากาศยุคกลางเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น (192 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำคณะเดินทางสู่สาธารณรัฐสโลเวเนีย ดินแดนที่มีความงดงามทางลักษณะภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ ภูเขา และศิลปะวัฒนธรรมที่สุดแสนจะงดงาม เข้าสู่เบลด (Bled) เมืองตากอากาศตั้งอยู่ริมทะเลสาบและริมเทือกเขาแอลป์ จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ (215 ก.ม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก PARK HOTEL BLED หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.hotel-park-bled.com
วันที่สาม เบลด – ล่องเรือทะเลสาบเบลด – ลูบลิยานา – ถ้ำโพสทอยน่า – โอบาเทีย (โครเอเชีย) อาทิตย์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำท่านล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ตัวทะเลสาบเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ น้ำในทะเลสาบไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว เรือล่องผ่านปราสาทเบลด (Bled Castle) ที่ตั้งอยู่บนริมผา ติดทะเลสาบเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด จักรพรรดิ์เฮนริคที่ 2 แห่งเยอรมันยกให้เป็นสถานที่พักของ บิชอป อัลเบี่ยม แห่งบริเซน (Bishop Albium of Brixen) ในปี ค.ศ.1004 แล้วเดินทางต่อสู่กรุงลูบลิยานา (Ljubljana) เข้าสู่จัตุรัสเพรเซเรน จัตุรัสกลางเมืองเป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรมมีรูปปั้นของ ฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลเวเนียเป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ ใกล้จัตุรัสเป็นโบสถ์ในนิกายฟรานเซสกัน ศิลปะในแบบอาร์ตนูโว (55 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำคณะเดินทางไปเที่ยวชมถ้ำโพสทอยน่า เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ภายในถ้ำเชื่อมต่อถึงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร เข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ชมส่วนที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำที่เรียกว่า Classic Karst ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา ภายในถ้ำยังมีห้องต่างๆ มากมาย ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิต (48 ก.ม.)
17.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองโอบาเทีย เมืองตากอากาศแบบริเวียร่าที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี ตัวเมืองลดหลั่นไปตามไหล่เขา เป็นทั้งวิลล่าตากอากาศ, โรงแรมชั้นนำ, แหล่งบันเทิงและร้านอาหาร จัตุรัสกลางเมืองมีรูปปั้นสตรีและนกนางนวล อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อิสระให้ท่านพักผ่อนกับบรรยากาศชั้นเลิศ (62 ก.ม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก REMISEN PREMIUM HOTEL AMBASADOR หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.remisens.com
วันที่สี่ โอบาเทีย – ซาเกรบ เที่ยวชมเมืองหลวงอันเก่าแก่ จันทร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. ออกเดินทางสู่นครซาเกรบ เมืองหลวงอันเก่าแก่ ศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย (170 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำคณะเที่ยวชมเมือง เริ่มต้นเดินทัวร์จากจัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี เห็นได้จากทุกมุมของเมือง หลังจากถูกกองทัพมองโกลทำลาย ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1880 ก็ได้รับการซ่อมแซมใหม่ให้เป็นรูปแบบนิโอโกธิคดังที่เห็นในปัจจุบัน ชมตลาดโดแลค ตลาดกลางแจ้งที่กล่าวกันว่า เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ชมประตูเมืองเก่าสโตนเกท ประตูเมืองที่ยังหลงเหลือมีรูปพระแม่มารีอยู่ รอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1731 เชื่อกันว่าเกิดจากปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์ เข้าสู่จัตุรัสมหาวิหารเซนต์มาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของ ซาเกรบ โครเอเชีย สลาโวเนีย และดาลมาเชีย รอบๆ จัตุรัสเรียงรายไปด้วย ทำเนียบประธานาธิบดีและรัฐสภา บันทึกภาพแบบพาโนรามา ที่จุดชมวิวตัวเมืองเก่าเขตอัพเพอร์ทาวน์ แล้วนั่งรถรางสู่โลเวอร์ทาวน์ เขตชุมชนย่านใจกลางเมือง ณ จัตุรัสเยลาซิค ย่านการค้าและศูนย์กลางของเมือง อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งอันทันสมัยของคนเมือง ร้านค้าและร้านขายของที่ระลึกเรียงรายให้ท่านได้เพลิดเพลินตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON HOTEL ZAGREB หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.sheratonzagreb.com
วันที่ห้า นครซาเกรบ – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ – เดินเที่ยวชมอุทยานฯ – สปลิต อังคาร
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. เดินทางสู่เมืองพลิตวิเซ่ (Plitvice) แห่งแคว้น Istria & Kvarner ระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติ และความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้า ฟาร์มการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ (188 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย นำท่านเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ตั้งอยู่ในกลางของประเทศ ถูกค้นพบขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 เดินชมธรรมชาติไปตามทางเท้าที่จัดไว้เป็นสัดส่วน ลัดเลาะไปตามทะเลสาบและน้ำตกที่สูงตระหง่าน เป็นอุทยานธารสวรรค์ตามธรรมชาติแห่งยุโรป พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำ มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้ารวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา บางช่วงเป็นน้ำตกแบ่งเป็น 2 ระดับ น้ำตกที่สูงที่สุดมีความสูง 639 เมตร ที่ต่ำสุดมีความสูง 503 เมตร นำท่านล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ องค์การยูเนสโก้จึงได้รับเอาไว้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่เมืองสปลิต (Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของโครเอเชีย รองลงมาจากเมืองซาเกรบ ในแคว้นดัลเมเชียนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียน ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ, วัฒนธรรมและการคมนาคมที่สำคัญที่สุดของเขตชายทะเล ด้วยมีสนามบินนานาชาติที่สามารถรองรับการเดินทางทางภาคใต้ของโครเอเชียกับหลายเมืองในยุโรป (257 ก.ม.)
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU RESORT SPLIT (พัก 2 คืน) หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.radissonblu.com
วันที่หก สปลิต – ซีบีนิก – มหาวิหารเซนต์เจมส์ – พระราชวังดิโอคลีเธียน พุธ
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำคณะเดินทางสู่เมืองซีบีนิก (Sibenik) ซึ่งถูกบันทึกในเอกสารตั้งแต่ปี ค.ศ.1066 ในชื่อ แคสทรัม ซีบีนิซี (Castrum Sebenici) เติบโตจากอิทธิพลภายใต้การปกครองของ ฮังกาเรียน-โครแอต รวมถึงเวเนเชียน ขึ้นชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาบนป้อมปราการ ANNE ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกในยุคกลาง แล้วนำชมสถานที่สำคัญที่สุดของเมืองคือ มหาวิหารเซนต์เจมส์ สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1431-ค.ศ.1535 เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่าง 3 ศิลปกรรมคือ ดัลเมเชียน (ท้องถิ่น), ศิลปะทางเหนือของอิตาลี และทัสคานี สถาปนิคทั้ง 3 ท่าน ได้ใช้เทคนิคชั้นสูงในการสร้างห้องโถงสูงใหญ่และโดมครึ่งวงกลม ทั้งวิหารล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะโกธิค และเรอเนสซองค์ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน โดยยูเนสโก้ยกให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000 (87 ก.ม.)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เดินทางกลับสู่เมืองสปลิต (Split) เขตเมืองโบราณสปลิต เป็นที่ตั้งของพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian’s Palace) สร้างในราวศตวรรษที่ 3 บนอ่าวอัสพาลาโธส โดยดิโอคลีเธียน จักรพรรดิแห่งโรม ซึ่งพระองค์ทรงพำนักที่พระราชวังแห่งนี้จนสิ้นชีพ ในปี ค.ศ. 305 ชมร่องรอยของพระราชวังที่มีอายุกว่า 1,700 ปี ด้านในเป็นมหาวิหารสร้างในยุคกลางและป้อมปราการ เดิมเพื่อป้องกันข้าศึก UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย อิสระให้ท่านพักผ่อนหย่อนใจบน พรอมมินาด ถนนเลียบทะเลที่งดงามของเมือง (82 ก.ม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RADISSON BLU RESORT SPLIT หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.radissonblu.com
วันที่เจ็ด สปริต – เนอุม (บอสเนีย – เฮอเซโกบีนา) – ดูบรอฟนิก – เมืองโบราณ – ขึ้นกำแพงเมืองเก่า พฤหัสบดี
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. เดินทางสู่เมืองดูบรอฟนิก ผ่านอาณาเขตดินแดนของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ผ่านเมืองสตอน ที่มีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอยู่มากมาย ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบตัวเมืองเก่าบนยอดเขาโดยกำแพงเมืองนี้มีความยาว 5.5 กม. โดยมีความยาวเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นอันดับสองรองจากกำแพงเมืองจีน จนเข้าสู่เมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik)
เมืองดูบรอฟนิกเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป สมญานามไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง, สร้างโบสถ์, วิหาร สร้างจัตุรัสและน้ำพุ บ้านเรือนต่างๆ ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย เสน่ห์ของเมืองอยู่ที่เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาว ดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านแปงเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ (229 ก.ม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
14.00 น. นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์ สู่จุดชมวิวบนยอดเขา เสน่ห์ของดูบรอฟนิก อยู่ที่จุดชมวิวของแต่ละแห่งไม่ซ้ำแบบ ขึ้นสู่ยอดเขาบนความสูง 405 เมตร เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองแบบพาโนรามา กล่าวกันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง
จากนั้นนำเที่ยวชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate), น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Foutain), โบสถ์ฟรานซิสกัน ในสถาปัตยกรรมโกธิก ภายในมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1391 ชมสปอนซ่าพาเลซ (The Sponza Palace) พระราชวังเดิม งดงามในสถาปัตยกรรมโกธิกผสมเรอเนซองส์ เป็นหอจดหมายเหตุที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นเมืองท่าการค้าขายทางทะเลในอดีต จัตุรัสกลางเมือง (Loggia) ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบของชาวเมืองในอดีต โบสถ์เซนต์เบลซ (St.Blaise) นักบุญประจำเมือง สไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง เข้าชมเรคเตอร์พาเลซ (Rector’s Palace) อดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาล ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างของเมืองโบราณแห่งนี้ นำท่านชมเมืองแบบพาโนรามาวิวบนกำแพงเมืองโบราณ ที่โอบล้อมรอบเมืองเก่ายาวถึง 1,940 เมตร
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON DUBROVNIK RIVIERA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกันwww.sheratondubrovnikriviera.com
วันที่แปด ดูบรอฟนิก – มอนเตเนโกร – THE BEST OF MONTENEGRO ศุกร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองกอเตอร์ (Kotor) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลอาเดรียติกตอนใต้ของประเทศมอนเตเนโกร ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพของภูเขาที่โอบล้อมผืนนํ้าเอาไว้เหมือนเช่นฟยอร์ดในนอร์เวย์ นำท่านชมเมืองโคทอร์ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง (City Wall) ซึ่งแบ่งตัวเมืองเป็น 2 ส่วนคือ เมืองเก่า (Old town) และเมืองใหม่ (New Town) โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน (Cathedral of Saint Tryphon) ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 ภายในตัวเมืองเก่า อิสระให้ท่านเดินเล่นและชมความงามภายในตัวเมืองเก่า หรือเลือกซื้อของฝากที่ระลึกตามอัธยาศัย (92 กม.)
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
14.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบุดวา
เมืองบุดวาเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของมอนเตเนโกรและเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทมากมาย เมืองบุดวา สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 เคยเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิส กว่า 400 ปีเช่นเดียวกับเมืองกอเตอร์ จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของชาวเวนิสแต่ในสมัยศตวรรษที่ 18 มอนเตเนโกรเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรออตโตมัน นอกจากนี้เมืองบุดวาเป็นอีกเมืองที่เป็นที่จับจ้องของประเทศล่าอาณานิคมทั้ง ฝรั่งเศส, ออสเตรีย และ รัสเซีย และในปี 1918 ตกเป็นของประเทศยูโกสลาเวีย นำท่านชมความงามภายในตัวเมืองเก่า หรือ Stari Grad (Old Town)และนำท่านเข้าชมโบสถ์เซ็นต์จอหน์ (Church of Saint John) ซึ่งภายในโบสถ์มีภาพไอคอนพระแม่มารี “Madonna in Punta” ประดิษฐานในโบสถ์แห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปและเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองพอดกอร์ริซ่า (Podgorica)เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกรเพื่อนำท่านเข้าสู่ที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย (23 กม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAMADA HOTEL PODGORICA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.ramadapodgorica.me
วันที่เก้า พอดกอร์ริซ่า – บินสู่กรุงเวียนนา – กรุงเทพฯ เสาร์
05.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Breakfast Box
08.00 น. ออกเดินสู่กรุงเวียนนา โดยสายการบินมอนเตเนโกร แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ YM500
09.30 น. ถึงกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน
14.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG937
วันที่สิบ คณะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ อาทิตย์
05.30 น. สายการบินไทย นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
PERIOD
Tour Fare
PERIOD
Tour Fare
ค่าทัวร์รวม :
ค่าทัวร์ไม่รวม :
การจองทัวร์ (How to make your reservation)
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…