LUXURY RIVIERA TURKEY 8 Days 5 Nights By Turkish Airlines (TK)
ล่องเรือชมทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน (Mediteranian Boat Trip) เจ้าของสมญานาม “ริเวีย ร่าแห่งตุรกี” ให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดโดยการล่องเรือที่ตกแต่งคล้ายกับเรือโจรสลัด เรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างเรียงรายอยู่ตามหน้าผา และที่พลาดไม่ได้เรือจะพาท่านล่องไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นับว่าเป็นความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกทั่วๆ ไปในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไหลลงด้านล่างจะเป็นลำธารน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด
กำหนดการเดินทาง
วันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. 62 (1) กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – กรุงอิสตันบูล
18.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 9 แถว T สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องกระเป๋าสัมภาระและการเช็คอิน
21.40 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK069 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 15 นาที)
วันจันทร์ที่ 20 พ.ค. 62 (2) กรุงอิสตันบูล – เมืองอิซเมียร์ – เมืองคูซาดาซึ – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – ห้องสมุดของเซลซุส – วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน – โรงละคร Great Theatre – เมืองปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย
04.00 น. คณะเดินทางถึง สนามบินอาตาตูร์ก กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบินภายในประเทศ
07.00 น. เหิรฟ้าต่อสู่ เมืองอิซเมียร์ (Izmir) โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK2310 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที)
08.10 น. คณะเดินทางถึง สนามบินเมืองอิซเมียร์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) ระยะทาง 89 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เป็นท่าเรือธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล หลังจากที่ตกเป็นของออตโตมัน มหาเสนาบดีโอคุซ เมห์เหม็ด พาซา (Okuz Mehmed Pasa) ผู้เป็นวิเชียร์แห่งสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 และสุลต่านออสมันที่ 2 ได้สร้างสุเหร่าคาไลชิ (Kaleici) และโรงอาบน้ำ ตลอดจนกำแพงเมืองที่พักสำหรับกองคาราวาน (Karavan Sarayi) เพื่อให้คูซาตาซึเป็นเมืองท่าที่เหมาะในการทำการค้าระหว่างยุโรปและแอฟริกา
นำท่านชม เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus ชมความสวยงามของอดีตเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ
วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรี ปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ
จากนั้น นำท่านเข้าชม โรงงานเครื่องหนัง คุณภาพเยี่ยมของประเทศตุรกี ที่สินค้าแบรนด์เนมดังๆ จากทั่วโลก มักจะส่งมาให้โรงงานในตุรกีผลิต อาทิเช่น Versace, Micheal Kors และแบรนด์ดังอื่นๆ อีกมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (Pamukkale) ระยะทาง 195 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เมืองปามุคคาเล่ (Pamukkale) คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” ซึ่งคำว่า Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส
ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตา และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) หรือปามุคคาเล เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ PAM THERMAL HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันอังคารที่ 21 พ.ค. 62 (3) ปามุคคาเล่ – เมืองอันตาเลีย – ประตูเฮเดรียน – ท่าเรือโบราณ – ล่องเรือชมความงามของอ่าวที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เนี่ยน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันตาเลีย (Antalya) ระยะทาง 243 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Mediterranean Sea ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งแคบๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและท้องทะเลอันงดงาม จนนักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนล้วนให้การยกย่องว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งตุรกี” ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองนั้นก็มีทั้งส่วนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ถือว่ามีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์” (Hidirlik Tower) อีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือประภาคาร ในอดีต ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์เป็นหอคอยทรงกลมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย
จากนั้น นำท่านสู่ ประตูเฮเดรียน (Hadrian’s Gate) ประตูชัยซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของจักรพรรดิโรมันเฮ เดรียน Roman Emperor Hadrian ในช่วงศตวรรษที่ 2 โดยประตูนั้นถูกสร้างขึ้นในรูปแบบทรงโค้ง จำนวน 3 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นประตูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีอีกด้วย จากนั้นนำท่านชม ท่าเรือโบราณ Old Habour ซึ่งปัจจุบันท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้ และชม ท่าเรือโบราณ (Old Habour) ซึ่งปัจจุบันท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน (Mediteranian Boat Trip) เจ้าของสมญานาม “ริเวีย ร่าแห่งตุรกี” ให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดโดยการล่องเรือที่ตกแต่งคล้ายกับเรือโจรสลัด เรือจะพาท่านลัดเลาะไปตามหน้าผาต่างๆ ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาว สร้างเรียงรายอยู่ตามหน้าผา และที่พลาดไม่ได้เรือจะพาท่านล่องไปชมน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นับว่าเป็นความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากน้ำตกทั่วๆ ไปในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไหลลงด้านล่างจะเป็นลำธารน้ำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างท่านไม่ควรพลาด
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ RAMADA PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันพุธที่ 22 พ.ค. 62 (4) เมืองอันตาเลีย – โรงละคร Roman Theater – คาราวานสไลน์ – เมืองคัปปาโดเกีย – นครใต้ดินไคมัคลี – โรงงานพรมและโรงงานเซรามิค – ชมการแสดงระบำหน้าท้อง Belly Dance
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองแอสเพนโดส (Aspendos) อยู่ห่างออกไปจากเมืองอันตาเลียประมาณ 45 กิโลเมตร เพื่อชม โรงละครที่มีความยิ่งใหญ่ (Roman Theater) สัมผัสอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีความสวยงามและสามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 20,000 คน มีเวทีแสดงด้านหลังที่ถูกสร้างขึ้นหลายชั้นเหมือนกับอพาร์ตเม้นท์ ที่มีห้องสำหรับนักแสดงเพื่อไว้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย นอกจากนั้นทางด้านซ้ายและด้านขวายังมีทางที่ยื่นออกไปเหมือนกับระเบียงที่ติดต่อกับที่นั่ง
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ต่อ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระยะทาง 341 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางให้ท่านได้แวะพักเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการเข้าชม Caravansarine
สถานที่พักแรมของพ่อค้าชาว เติร์ก สมัยออตโตมัน ที่ยิ่งใหญ่ ระหว่างทางแวะถ่ายรูป คาราวานสไลน์ ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี (Sultan Han Caravanserai) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
14.30 น. นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ
จากนั้น นำท่านเข้าชม โรงงานพรม ตุรกีถือว่ามีชื่อเสียงเรื่องพรม พรมส่วนใหญ่ที่ผลิตในตุรกีนั่นมีชื่อเสียง เลื่องลือระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นพรมที่ทอจากขนสัตว์ หรือพรมที่ทอจากฝ้าย และพรมที่ทอจากไหม และแวะชม โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ GAMIRASU CAVE HOTEL โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำหรือเทียบเท่า
หมายเหตุ ในกรณีที่โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทจะเปลี่ยนเป็นนอนโรงแรมระดับ 5 ดาวแทน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมชม “ระบำหน้าท้อง” Belly Dance ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี
วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค. 62 (5) คัปปาโดเกีย – Optional ขึ้นบอลลูน – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ – หุบเขานกพิราบ – หมู่บ้านโบราณอุชิซาร์ – สู่กรุงอิสตันบูล
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น. ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง โดยต้องมีอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาประมาณ USD 230 ต่อ 1 ท่าน) หากท่านสนใจ สามารถสอบถามราคาได้จากหัวหน้าทัวร์ก่อนชำระเงิน **
[บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกีมีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทยนั้น ไม่ครอบคลุมการทำกิจกรรมขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกประเภท]
สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อทัวร์ขึ้นบอลลูน สามารถอิสระพักผ่อนที่โรงแรมได้ตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Goreme Open Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ และนำท่านแวะถ่ายรูป หมู่บ้านโบราณอุชิซาร์ เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีภูเขาหินขนาดมหึมาอยู่บนเขากลางเมือง ถูกขุดสกัดเป็นปราสาทขนาดใหญ่ มีช่องหน้าต่างมากมายจนดูคล้ายรวงผึ้ง วิวจากด้านบนสามารถมองลงไปเห็นหุบเขาเบื้องล่างได้รอบทิศ ที่นี่สามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของผู้คนจริงที่อยู่อาศัยในบ้านที่ขุดเข้าไปในภูเขาที่ดูเหมือนจอมปลวก จนเรียกได้ว่าเป็นบ้านจอมปลวกในสภาพแวดล้อมเดิมมายาวนานหลายร้อยปี
จากนั้น นำท่านชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church), โบสถ์มังกร (Snake Church) และ โบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
แวะถ่ายรูปกับ หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) จุดชมวิว ณ หุบเขานกพิราบ Pigeon Valley หน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย ณ จุดนี้ท่านจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ได้ในระยะไกล ที่นี่จะมีนกพิราบมากมาย ที่ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบเพื่อนำอึมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ และชม หมู่บ้านโบราณอุชิซาร์ (Uchisar Town) เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีภูเขาหินขนาดมหึมาอยู่บนเขากลางเมือง ถูกขุดสกัดเป็นปราสาทขนาดใหญ่ มีช่องหน้าต่างมากมายจนดูคล้ายรวงผึ้ง วิวจากด้านบนสามารถมองลงไปเห็นหุบเขาเบื้องล่างได้รอบทิศ ที่นี่สามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของผู้คนจริงที่อยู่อาศัยในบ้านที่ขุดเข้าไปในภูเขาที่ดูเหมือนจอมปลวก จนเรียกได้ว่าเป็นบ้านจอมปลวก ในสภาพแวดล้อมเดิมมายาวนานหลายร้อยปี
จากนั้น นำท่านชม โรงงานเพชร ที่มีชื่อเสียงของประเทศตุรกี อาทิเช่น เทอควอย อาร์เทมิส เพชร และพลอย ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตและยังมีความโดดเด่นให้ท่านได้เลือกชมและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเนฟเชฮีร์
19.35 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK2009 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 30 นาที)
21.05 น. คณะเดินทางถึง สนามบินกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ ERESIN TOPKAPI HOTEL หรือเทียบเท่า
วันศุกร์ที่ 24 พ.ค. 62 (6) อิสตันบูล – ฮิปโปโดรม – สุเหร่าสีน้ำเงิน – สุเหร่าเซนต์โซเฟีย – อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน – ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านชม ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่างๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ
จากนั้นนำท่านเดินต่อไปชมสถานที่ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตร และประดับไว้งดงาม 108 ต้น และชม อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Yerebatan Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่โดดเด่นมากที่สุดคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายภาพและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปึ ห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับด้วยมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์ที่สำคัญ ที่มีชื่อเสียงก้องโลก
ซึ่งถือว่าเป็นพระราชวังสำคัญในสมัยออตโตมัน เป็นที่ประทับของสุลต่านองค์สำคัญๆ ซึ่งบรรยากาศของพระราชวังกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ในดงต้นมะกอก และตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสฟอรัส ท่านจะได้ชมห้องต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการให้เห็นภาพย้อนยุคในสมัยออตโตมัน และพระราชวังแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรวบรวมสมบัติโบราณของประเทศตุรกี รวมทั้งเครื่องกระเบื้องเคลือบอันสวยหรู มงกุฏเพชรประจำราชวงศ์ และอัญมณีทรงค่ารวมทั้งเพชร 88 กะรัต ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ก่อนนำท่านสู่ จุดถ่ายภาพที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของวิวริมช่องแคบบอสฟอรัส
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้ง สไปซ์ มาร์เก็ต (Spice Market) เป็นตลาดพื้นเมืองของชาวเมืองอิสตันบูล ที่มีเครื่องเทศอันลือชื่อและ นอกจากนั้น ยังมีอาหารขึ้นชื่อและของฝากมากมาย เช่น ถั่วสารพัดชนิด, น้ำผึ้ง, ไข่ปลาเวียร์, ขนมอร่อยๆ แบบเตอร์กิชดีไลท์ เป็นต้น นอกจากช็อปปิ้งสนุก ขนมอร่อยแล้ว การได้มาถ่ายรูปที่ตลาดแห่งนี้ถือว่าได้บรรยากาศที่สนุกสนานมาก เพื่อหาเลือกซื้อสินค้าคุณภาพราคาถูกมากมายโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปต่างๆ มากมายทีนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือน มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ เตอร์กิส ดีไลท์ เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ ERESIN TOPKAPI HOTEL หรือเทียบเท่า
วันเสาร์ที่ 25 พ.ค. 62 (7) กรุงอิสตันบูล – ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส – พระราชวังโดลมาบาเช่ – ช้อปปิ้งที่ Taksim Square – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือชมความงดงามสุดเกินจะบรรยายของ ช่องแคบบอสฟอรัส (Cruise Along the Bosphorus) ที่เชื่อมทะเลดำและทะเลมาร์มาราเข้าด้วยกัน และที่สำคัญช่องแคบแห่งนี้ เป็นช่องแคบพรมแดนกั้นระหว่างทวีปเอเชีย และ ทวีปยุโรป ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามสองฝรั่งทวีป คือ ยุโรป และ เอเชีย อันสวยงามยิ่ง และ มีพระราชวังสำคัญๆ อยู่ริมแม่น้ำมากมาย รวมถึงสถาปัตยกรรมในยุคโรมันที่รายล้อมริมสองฝั่งแคบ ซึ่งทุกท่านถือเป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตที่ได้มีโอกาสมาล่องเรือในช่องแคบที่แบ่งเส้นพรมแดนทวีปในครั้งนี้
จากนั้น นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาชเช่ (Dolmabahce Palace) พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้เผยแผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม่ดอกรายล้อมพระราชวัง ซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็กๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าสู่ย่าน ทักซิม สแควร์ (Taksim Square) เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล คำว่า Taksim หมายถึง การแบ่งแยกหรือการกระจาย ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ Sultan Mahmud I Taksim Square ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารตุรกี, ร้านค้า, ผับ, คาเฟ่และร้านอาหารจานด่วนนานาชาติมากมายได้แก่ Pizza Hut, Mc Donald’s, Subway และ Burger King และสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังอื่นๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินได้ตลอดเวลา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินอาตาตูร์ก เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
วันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค. 62 (8) กรุงอิสตันบูล – สู่กรุงเทพฯ
01.25 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK068 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง 35 นาที)
15.00 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
ราคารวมตั๋วเครื่องบิน (คณะเดินทางขั้นต่ำ 20 ท่านขึ้นไป)
หมายเหตุ : กรณีคณะมีผู้เดินทาง ผู้ใหญ่ต่ำกว่า 20 ท่าน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคา และขอเรียกเก็บค่าทัวร์เพิ่มท่านละ 2,000 บาท
อัตรานี้รวม
อัตรานี้ไม่รวม
เงื่อนไขการชำระเงิน
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…