LOFT-WWV-35 ยอดเขากอร์โกวาโด จุดหมายปลายทางฝันของนักท่องเที่ยวที่ยืนคู่กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นก็คือ “รูปปั้นพระเยซูคริสต์” แห่งเมืองริโอ เดจาเนโร (Rio de Janeiro) สัญลักษณ์อันโด่งดังของบราซิล ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาร์เจนตินา) ฝั่งด้านนี้หนาแน่นไปด้วยป่าร้อนชื้น และกิจกรรมในการเที่ยวชมน้ำตกอย่างมากมาย น้ำตกอิกวาซู ประกอบไปด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร แต่ละน้ำตกมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ขนาดของน้ำตกกว้างประมาณ 4 ก.ม. นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่า 30 เท่า
ปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากทวีปแอนตาร์กติกา และอลาสกา เป็นประสบการณ์อันแสนประทับ ใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน
โปรแกรมทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2558 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์
วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย) ศุกร์
23.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ขาออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน
วันที่ 2 กรุงเทพฯ – ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) – ริโอ เดอจาเนโร (บราซิล) เสาร์
01.35 น. สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยเที่ยวบินที่ EK385 (Airbus A380-800) (ใช้เวลาบิน 6.10 ชั่วโมง)
04.45 น. ถึงสนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
07.10 น. ออกเดินทางสู่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK247 (Boeing 777-300 ER) (ใช้เวลาบิน 14.29 ชั่วโมง)
14.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติแอนโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล เมืองริโอ เดจาเนโร หรือ “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยชายหาดชื่อดัง โคปาคาบานา และ อีปาเนมา ที่คนทั่วโลกกล่าวขวัญถึง รวมถึงเทศกาลคาร์นิวัล เทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก WINDSOR ATLANTICA HOTEL 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.windsorhotels.com
วันที่ 3 ริโอ เดจาเนโร – รูปปั้นพระเยซูคริสต์ – ซูการ์โลฟ – สนามฟุตบอลมาราคานา – ฟาเวโล อาทิตย์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านขึ้นสู่ยอดเขากอร์โกวาโด จุดหมายปลายทางฝันของนักท่องเที่ยวที่ยืนคู่กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นก็คือ “รูปปั้นพระเยซูคริสต์” แห่งเมืองริโอ เดจาเนโร (Rio de Janeiro) สัญลักษณ์อันโด่งดังของบราซิล ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ นำคณะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาซูการ์โลฟ (Pao De Acucar) หรือภูเขาก้อนน้ำตาลที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับยอดเขากอร์โกวาโด แต่มีความสูงเพียงครึ่งหนึ่งของรูปปั้นพระเยซูคริสต์ เพื่อไปชมทัศนียภาพแบบ 360 องศาของเมืองริโอ
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำคณะสู่ เอสตาดิโอ โด มาราคานา สนามฟุตบอลขนาดยักษ์จุคนได้ 103,022 คน เพื่อให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึกจากทีมบราซิล เมืองริโอ มีสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศทั้งในแถบลาตินอเมริกา อเมริกา และยุโรป ซึ่งมีการจัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และมีจุดเด่นอยู่ที่ บัววิกตอเรียขนาดใหญ่ และทิวแถวของต้นปาล์มที่ถูกไว้เป็นแนวสวยงาม ท่ามกลางความเขียวขจี ผ่านย่านชุมชนแออัดที่ ฟาเวลา (Favela) เป็นภาพของบ้านเรือนปลูกไล่กันไปบนภูเขาหลายร้อยหลายพันหลัง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ นักเตะชื่อดังหลายคนก็เติบโตมาจากที่นี่ทั้ง โรนัลโด, โรนัลดินโญ
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก WINDSOR ATLANTICA HOTEL 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.windsorhotels.com.br
วันที่ 4 ริโอ เดจาเนโร – บินสู่เมืองอิกวาซู – น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) จันทร์
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
10.08 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิกวาซู โดยสายการบิน TAM Airline
เที่ยวบินที่ JJ3188 (Airbus 320) (ใช้เวลาบิน 2.20 ชั่วโมง)
12.28 น. ถึงสนามบิน Cataratas International airport รถรอรับคณะแล้วเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกอิกวาซู 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ ครอบคลุมพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและบราซิล
13.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
บ่าย นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำ อิกวาซูที่ไหลมาจากที่ราบสูงปารานา และตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบเกินเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มหึมา ถึงแม้น้ำตกโดยส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งอาร์เจนตินา แต่ท่านสามารถสัมผัสสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดด้วยทางเดินสะพานไม้ ที่ออกแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดที่สุด ละอองของสายน้ำในช่วงหน้าร้อนจะมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำให้ท่านได้ชม (ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะขึ้น Helicopter ชมวิวทิวทัศน์และความยิ่งใหญ่บนมุมสูง ค่าเฮลิคอปเตอร์ 120 US$ / ท่าน กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.iguazuagrandhotel.com
วันที่ 5 ชมน้ำตกอิกัวสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) – ล่องเรือชมน้ำตก – ท่องป่าร้อนชื้น อังคาร
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. หลังอาหาร นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนสู่ฝั่งอาร์เจนตินา
นำชมน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาร์เจนตินา) ฝั่งด้านนี้หนาแน่นไปด้วยป่าร้อนชื้น และกิจกรรมในการเที่ยวชมน้ำตกอย่างมากมาย น้ำตกอิกวาซู ประกอบไปด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร แต่ละน้ำตกมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ขนาดของน้ำตกกว้างประมาณ 4 ก.ม. นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่า 30 เท่า น้ำตกส่วนใหญ่อยู่ในอาร์เจนตินาราว 90% พื้นที่ป่าริมน้ำตกเป็นเขตคุ้ม ครองรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตร้อนที่มีอยู่อย่างชุกชุม เช่น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ สมเสร็จ เพ็คคารี และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย เส้นทางเดินชมน้ำตกจุดสูงสุดคือ Devil’s Throat จุดที่ท่านจะยืนเหนือน้ำตก สัมผัสละอองน้ำจากด้านบน และตื่นตาตื่นใจกับต้นกำเนิดของสายน้ำตก จากนั้นเปลี่ยนวิวทิวทัศน์บนเส้นทางเดิน Upper Trail และ Lower Trail ที่ให้ความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ท่านรอคอย “ล่องเรือชมน้ำตก” เรือขนาดความจุ 30 ที่นั่ง แล่นไปตามสายน้ำจนเข้าสู่เขตม่านน้ำตก ที่ฝ่าด่านของสายน้ำอันเชี่ยวกราก และสายน้ำตกที่ส่งเสียงกึกก้องมหึมา ที่ท่านไม่ควรพลาดกับประสบการณ์ดีๆ ของความงามแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางกลับสู่ที่พักโรงแรม
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.iguazuagrandhotel.com
วันที่ 6 เมืองอิกัวสุ – บินสู่บัวโนสไอเรส พุธ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
อิสระตามอัธยาศัย จนกระทั่งเวลาเช็คเอ๊าท์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
15.50 น. ออกเดินทางสู่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1737 (Boeing 738) (ใช้เวลาบิน 1.55 ชั่วโมง)
17.45 น. ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร Local
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and
CONVENTION CENTER 4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.starwoodhotels.com
วันที่ 7 บัวโนสไอเรส – บินสู่เอล คาลาฟาเต (El Calafate) – ปาตาโกเนีย พฤหัสบดี
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม Buffet
10.00 น. ออกเดินทางสู่เอล คาลาฟาเต โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas
โดยเที่ยวบินที่ AR1870 (Boeing 738) (ใช้เวลาบิน 3.20 ชั่วโม)
13.20 น. ถึงเมืองเอล คาลาฟาเต (El Calafate) ในเขตจังหวัดซานตาครูซ ในเขตที่ราบสูง ปาตาโกเนีย (Patagonia) เป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี นักสำรวจให้สมญานามว่า ดินแดนแชงกรีลาแห่งอเมริกาใต้ ที่ที่เชื่อกันว่าผู้คนมีความสุข มีชีวิตยืนยาว มีธรรมชาติที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ กล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง
14.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆแห่งนี้ เอล คาลาฟาเต เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งด้านใต้ของทะเลสาบอาร์เจนติโน โอบล้อมด้านที่เหลือด้วยทุ่งหญ้า และเทือกเขาสูงใหญ่ สองฟากฝั่งของถนนสายหลักในหมู่บ้าน เรียงรายไปด้วยโรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และบริษัทท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองหน้าด่านในการเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติลอส กลาซิอาเรส (Parque Nacional Los Glaciares) บนเนินเขาเล็ก ๆ ด้านตะวันตกเป็นย่านที่อยู่ของชาวอินเดียนเผ่าอลากาลุฟ (Alacaluf) ถัดจากเนินเขา เป็นท้องทุ่งกว้างที่ทอดตัวยาว ไปจนจรดเทือกเขาสูงตระหง่าน เป็นที่ที่เกาโช (Gaucho) โคบาลแห่งทวีปอเมริกาใต้ หรือวีรบุรุษนักบุกเบิกแห่งอาร์เจนตินา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก XELENA HOTEL & SUITES 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.hotelxelena.com
วันที่ 8 อุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็งลอส กลาซิอาเรส – ธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน่ ศุกร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านสู่เขตอุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็ง ลอส กลาซิอาเรส (Los Glaciares) แห่ง Patagonia มีพื้นที่ราว 6.000 ตร.กม. หรือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนมากที่สุด สวยมหัศจรรย์จน UNESCO ยกให้เป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1981 นำคณะไปชมธารน้ำแข็งโมเรโน มีจุดกำเนิดอยู่บนยอดเขาที่ห่างออกไปถึง 20 ก.ม. บริเวณส่วนปลายมีความกว้างถึง 5 ก.ม. สูงจากผิวน้ำ 74 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ธารน้ำแข็ง 1,600 ตร.กม. ทำให้มันถูกจัดเป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดในซีกโลกใต้ สิ่งที่โดดเด่นคือ ภูเขาน้ำแข็งอันงดงามตระการตา ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาคล้ายกำแพงสีขาว ท่านสามารถเดินชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิดตามใจปารถนาด้วยทางเดินไม้ที่ทอดตัวไปรอบป่าสน จนไปสิ้นสุดบริเวณหน้าผา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธารน้ำแข็ง ตลอดเวลาจะได้ยินเสียงดังราวเสียงระเบิดกึกก้อง เมื่อก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวตกลงสู่ผืนน้ำ “ไวท์ ไจแอนท์” แห่งอาร์เจนตินา ชื่อเรียกธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดการพังทลาย แนวน้ำแข็งขนาดมหึมาของโลก เป็นการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์โลกร้อนที่ กำลังเข้าขั้นรุนแรง
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Buffet
บ่าย กิจกรรมที่ท่านรอคอยเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากทวีปแอนตาร์กติกา และอลาสกา เป็นประสบการณ์อันแสนประทับ ใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก XELENA HOTEL & SUITES 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.hotelxelena.com
วันที่ 9 เอล กาลาฟาเต – อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน (ชิลี) เสาร์
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
08.00 น. นำคณะเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน (Torres del Paine National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศชิลี อุทยานฯแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ภูเขา ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบและแม่น้ำหลายสาย รวมไปถึงพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ของชิเลียน ปาตาโกเนีย (Chilean Patagonia)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแอนดีสทางตอนใต้เป็นศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นใหม่มีพื้นที่ 630 ตารางไมล์ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกประดับประดาไปด้วยเหล่าดอกไม้ป่า และพืชพรรณ โดยเฉพาะต้นคาลซิโอลาเรีย (ต้นรองเท้าแตะ) ที่มีดอกสีสันสวยงาม มีเทือกเขากอร์ดิเยร่า (Cordillera del Paine) เป็นศูนย์กลางของอุทยานและยังเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น เป็นเสาหินก้อนเดียวใหญ่มหึมา 3 แท่งประกอบด้วย South, Central และ North สูงเรียงลำดับ 2,600-2,850 เมตรโดดเด่นเป็นสง่า และหากโชคดีคุณจะมีโอกาสได้พบกับตัวกวานาโค (Guanaco) ตัวคล้ายกวางแต่หน้าเหมือนอูฐ อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พัฒนามาจากอูฐ ความงดงามเหล่านี้ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภูมิอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LAGO GREY 3* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.lagogrey.com
วันที่ 10 อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน – ปอร์โตนาตาเลส (Puerto Natales) อาทิตย์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านเที่ยวอุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน อุทยานฯนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการตีพิมพ์ในปีค.ศ. 1880 ในหนังสือของ เลดี้ ฟลอเรนซ์ ดิ๊กซี่ ซึ่งเธอเป็นนัก ท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ได้มาเยือน ภาพอันแสนสวยของอุทยาน ฯ เกิดจากสีของทะเลสาบแต่ละแห่งอาทิ Amarga, Nordenskjold, Pehoe ที่แตกต่างกันออกไป บางแห่งเกิดจากความเป็นด่างของแร่ธาตุ บางแห่งเป็นสีฟ้าสวย และมีก้อนน้ำแข็งมหึมาลอยอยู่กลางทะเลสาบ แสงสะท้อนจากธารน้ำแข็ง เป็นภาพที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก นอกจากนี้ที่นี่ท่านอาจโชคดีได้พบสุนัขจิ้งจอกสีแดง และนกคอนดอร์ ที่เป็นสัตว์หายาก นอกจากนั้นยังมีน้ำตกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง ช่วยให้อุทยานฯแห่งนี้ดูสมบูรณ์แบบในความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นําท่านลงเรือในทะเลสาบเกรย์ เพื่อชมธารน้ำแข็งเกรย์ (Grey Glacier) มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยาน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 270 ตร.กม. และมีความยาวเกือบ 28 ก.ม. สิ้นสุดที่ทะเลสาบที่มีชื่อเรียกเดียวกัน ได้เวลาเดินทางสู่เมืองปอร์โตนาตาเลส (Puerto Natales)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Local
นำท่านเข้าสู่ที่พัก COSTAUSTRALIS PUERTO NATALES 4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.hotelcostaustralis.com
วันที่ 11 ปอร์โตนาตาเลส (Puerto Natales) – ปุนตา อารีนาส – M/V Via Australis or M/V Stella Australis จันทร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองปุนตาอาเรนัส (Punta Arenas) เมืองหลวงแคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา แคว้นใต้สุดของชิลี เป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางซีกโลกใต้บนเส้นรุ้งที่ 46 เดิมได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น มากายาเนส ในปี ค.ศ. 1927 แต่เปลี่ยนกลับมาใช้ ปุนตาอาเรนัส เหมือนเดิมในปี ค.ศ. 1938 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 เป็นหนึ่งในสองเมืองของชิลีที่เป็นเมืองท่าปลอดภาษี เมืองตั้งอยู่ข้างช่องแคบแมกเกนแลน มีความสำคัญด้านภูมิศาสตร์ของเมืองทำให้เมืองมีความสำคัญด้านการทหารในคาบสมุทรแอนตาร์กติก ในศตวรรษที่ 20 และ 21
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย นำคณะเช็คอิน เรือสำราญ M/V Via Australis or M/V Stella Australis (ขึ้นอยู่กับวันเดินทาง)
18.00 น. เรือสำราญออกเดินทาง Welcoming Cocktail reception โดยกัปตันและลูกเรือ เพื่อนำท่านค้นหาความมหัศจรรย์แห่งซีกโลกใต้ และดินแดนตอนใต้ของที่ราบสูง ปาตาโกเนีย เรือล่องผ่านช่องแคบมาเจลลัน เป็นทางเดินเรือที่ตั้งอยู่ระหว่างตอนใต้ของแผ่นดินใหญ่ ทวีปอเมริกาใต้กับกลุ่มเกาะเตียร์ราเดลฟวยโก ตั้งชื่อตามชื่อของเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน นักเดินเรือชาวโปรตุเกส ช่องแคบนี้เป็นทางเชื่อมสำคัญระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติก
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ห้องพักแบบ Sea View
วันที่ 12 อ่าวไอนส์เวิร์ท (Ainsworth Bay) – แมวน้ำช้าง – หมู่เกาะทัคเกอร์ (Tuckers Islets) – นกเพนกวินมาเจลลัน อังคาร
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
เรือนำท่านเข้าสู่ Almirantazgo Sound ดินแดนฟยอร์ดของชิลีในซีกโลกใต้ ในเขตอุทยานแห่งชาติ Alberto de Agostini เรือเล็กพาท่านขึ้นอ่าวไอนส์เวิร์ท เป็นแหล่งศึกษาพันธุ์สัตว์หายากอาทิ นกคอนดอร์, นก อัลบาทรอส และที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของ แมวน้ำช้าง (elephant seal) ขนาดใหญ่เท่าวอลรัสแต่ไม่มีเขี้ยว และจมูกไม่ย้อยเหมือนพะยูน แมวน้ำช้างซีกโลกใต้สายพันธุ์ Mirounga leonine ที่ปัจจุบันเป็นสัตว์สงวนพันธุ์ที่หาชมได้ยาก ท่านสามารถชมวิวธารน้ำแข็ง มารีนเนลลี (Marinelli Glacier) ธารน้ำแข็งที่ทอดตัวลงจากเทือกเขาดาร์วิน ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างไว้อย่างน่าอัศจรรย์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เรือสำราญมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะทัคเกอร์ (Tuckers Islets) เป็นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินสายพันธุ์มาเจลลัน ชื่อของมาเจลลัน มาจาก Ferdinand Magellan ชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกาใต้ เป็นเพนกวินที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเพนกวินเขตร้อน มันจะมีแถบสีขาวคาดใต้คางและท้อง มีหน้าตาคล้ายๆกับ African penguin และ Humbolt penguin เรียกได้ว่าเป็นหมู่เกาะที่ถูกยึดครองโดยนกเพนกวินเลยก็ว่าได้
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ห้องพักแบบ Sea View
วันที่ 13 ธารน้ำแข็ง Pia Glacier พุธ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
เรือสำราญล่องผ่านช่องแคบบีเกิล (Beagle Channel) ที่มีความยาวถึง 240 ก.ม. เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขาสูง เพียกลาเซียร์ (Pia glacier) ซึ่งธารน้ำแข็งนี้ได้กัดกร่อนให้เกิดเกาะเล็กๆ และเกาะน้อยใหญ่ เป็นหมู่เกาะในบริเวณช่องแคบ การเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็งในยุคปลายหลายแห่งในบริเวณนี้ ทอดตัวจากยอดเขาลงสู่ทะเล
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย ตลอดทั้งวัน เรือเล็กนำท่านขึ้นฝั่ง เพื่อบันทึกภาพของเหล่าธารน้ำแข็งแห่งขั้วโลกใต้ ในหลายๆจุด หลายมุมมอง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ห้องพักแบบ Sea View
วันที่ 14 อ่าววูเลย่า (Wulaia Bay) – อุทยานแห่งชาติเคปฮอร์น (Cape Horn) พฤหัสบดี
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
เรือสำราญล่องผ่านช่องแคบเมอร์เรย์ (Murray Channel) และอ่าววูเลย่า (Wulaia Bay) เป็นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองยามานา (Yamana) ในอดีต ชาร์ลส ดาร์วิน ได้เคยเทียบท่าที่นี่ในปีค.ศ 1833 ระหว่างที่เดินทางโดยเรือ HMS Beagle ผืนแผ่นดินบนเกาะนี้ นำท่านขึ้นชมเกาะที่ได้ชื่อว่า อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เข้าสู่ป่าแมกเกนแลน (Magellan Forest) ที่จุดชมวิวที่ดีที่สุดของเกาะให้ท่านได้สัมผัสสุดขอบแผ่นดินของประเทศชิลี
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Local
บ่าย เรือสำราญล่องสู่อ่าวนาสเซา (Nassau Bay) เพื่อมุ่งหน้าจุดที่เรียกว่า “แผ่นดินสุดขอบโลก” Enf of the Earth ณ อุทยานแห่งชาติเคปฮอร์น (Cape Horn National Park) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดสิ้นสุดหรือจุดใต้สุดของแผ่นดิน ถูกค้นพบครั้งแรกในปีค.ศ. 1616 ภูมิประเทศเป็นแหลมยื่นออกไปในมหาสมุทร ในระดับความสูง 425 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเวลาหลายร้อยปีที่แหลมฮอร์นถูกใช้เป็นเส้นทางในการล่องเรือจากแปซิฟิคสู่แอตแลนติก จนได้มีการขุดคลองปานามาขึ้น การคมนาคมทางเรือจึงย้ายไปใช้เส้นทางคลองปานามาแทน แต่อย่างไรก็ตามแหลมฮอร์นแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแผ่นดินสุดขอบโลก
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ห้องพักแบบ Sea View
วันที่ 15 อุชชัวยา (Ushuaia) – บินสู่บัวโนสไอเรส – เต้นรำแทงโก้ ศุกร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.30 น. เรือสำราญเทียบท่าที่เมืองอุชชัวยา (Ushuaia) เมืองที่อยู่ใต้สุดของซีกโลกใต้ The southernmost city of the world โอบล้อมด้วยผืนป่าและเทือกเขาสูงชันที่มีหิมะปกคลุม เก็บสัมภาระแล้วนำคณะเดินทางสู่สนามบิน
12.45 น. ออกเดินทางสู่บัวโนสไอเรส โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1857 (Boeing 738 ) (ใช้เวลาบิน 3.28 ชั่วโมง)
16.13 น. ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมใหม่และเก่าได้อย่างลงตัว และได้รับวัฒนธรรมยุโรปมาอย่างมากมาย จึงถูกเรียกว่า “ปารีสใต้” หรือ “ปารีสแห่งอเมริกาใต้” เมืองนี้เป็นเมืองสมัยใหม่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา โดยมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม ชีวิตกลางคืน และกิจกรรมทางวัฒนธรรม บัวโนสไอเรส คือ สุดยอดเมืองสุนทรีย์แห่งลาตินอเมริกา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการเต้นแทงโก้ ศิลปะการเต้นรำนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาร์เจนตินา ที่ท่านไม่ควรพลาดชม Chinese
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and
CONVENTION CENTER 4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน www.starwoodhotels.com
วันที่ 16 บัวโนส ไอเรส – ลาโบกา – ปลาซา มายอร์ – ซาน เตลโม – เดินทางสู่สนามบิน เสาร์
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Buffet
09.00 น. นำคณะเที่ยวชมกรุงบัวโนสไอเรส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำริโอ เดอ ลาพลาตา (Rio de la Plata) ย่านลาโบกา (La Boca) จุดกำเนิดของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โบคาจูเนียร์ และนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา เป็นย่านที่มีสีสันมากที่สุด ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง (กราฟฟิตี) ถนนคนเดิน, สโมสรแทงโก เข้าสู่ปลาซ่า มายอร์ ที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี หรือที่มีชื่อเรียกว่า “ลา กาซาโร ซาดา” (casa rosada) แปลว่าบ้านสีชมพู ถนน Avenida 9 de Julio ที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1936 เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก มหาวิหารโรเซอแรตต้า (The Metropolitan Cathedral) วิหารแห่งนี้เป็นที่ประทับของ คาร์ดินัลฆอร์เก้ มาริโอ้ แบร์กอกลิโอ หรือ พระสันตะปาปาฟรานซิสที่ 1 แห่งคริสตจักร ก่อนที่จะย้ายไปประทับที่วังวาติกัน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chinese
13.00 น. นำท่านไปชมย่าน San Telmo เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ แหล่งรวมของศิลปะ หัตถกรรมชาวพื้นเมืองและของโบราณ รวมไปถึงการแสดงพื้นเมืองและการดนตรี การเต้นรำจังหวะ Tango (แทงโก้) และความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวยามราตรี แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม.
17.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติมินิสโตร ปิสตารินี เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
21.30 น. สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยเที่ยวบินที่
EK248 (Boeing 777-300 ER)
**เครื่องบินแวะพักที่สนามบินเมืองริโอ 01.23 น.-03.10 น.** (ใช้เวลาบินรวม 18 ชั่วโมง 20 นาที)
วันที่ 17 สนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน อาทิตย์
22.50 น. ถึงสนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
วันที่ 18 ดูไบ – สนามบินสุวรรณภูมิ จันทร์
03.05 น. ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK384
(Airbus A380-800) (ใช้เวลาบิน 6.10 ชั่วโมง)
12.05 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
กำหนดการเดินทาง ทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2558 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์
ราคาทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2558 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ Tour Fare
กำหนดการเดินทางทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ปีใหม่ 2559 Countdown 2016 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์
ราคาทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ปีใหม่ 2559 Countdown 2016 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ Tour Fare
ราคาทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2558 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ค่าทัวร์รวม :
ราคาทัวร์บราซิล ชิลี อาร์เจนติน่า 18 วัน โปรแกรมแนะนำ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม 2558 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ค่าทัวร์ไม่รวม :
การจองทัวร์ (How to make your reservation)
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…