ทัวร์โครเอเชีย 8 วัน 5 คืน 12-19 ตุลาคม 2561 ตามรอยซีรีย์ชื่อดังระดับโลก “Game of Thrones” นั่งรถรางสู่เมืองตอนบนของกรุงซาเกรบ โอพาเทีย อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ล่องเรือข้ามทะเลสาบ JEZERO KOZJAK โทรเกียร์ สปลิท ป้อมปราการ The Klis Fortress ล่องเรือดำน้ำขนาดเล็ก พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน ดูบรอฟนิค ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขา SRD ล่องเรือพาโนราม่า

LOFT-CL_Fantastic Croatia 8D5N (OS) New 2018

เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ที่ประกอบด้วย 4 ทะเลสาบได้แก่ MILANOVAC, GAVANOVAC, KALUDEROVAC และ NOVAKOVICA ชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน แล้วเดินไปชม VELIKI SLIP BIG WATERFALL น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ มีความสูงถึง 70 เมตรเลยทีเดียว 

• ชมป้อมปราการ The Klis Fortress และเยือนเมืองดูบรอฟนิค สถานที่ถ่ายทำซีรีย์ชื่อดังระดับโลก Game of Thrones
• พิเศษ!!! ให้ท่านได้ล่องเรือดำน้ำขนาดเล็ก ชมทัศนียภาพใต้น้ำของทะเลอาเดรียติค
• ล่องเรือพาโนราม่าสู่ เกาะล็อกครุม
• พักค้างคืนที่อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่
• ชิมหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง จิบไวน์เติมเต็มรสชาติ
• เมนูพิเศษ!!! กุ้ง LOBSTER ย่างเสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้, เมนูหมูหัน, เห็ดทรัฟเฟิลของซีกันเต้, บูซาร่า หอยแมลงภู่ในซอสมะเขือเทศ สไตล์โครเอเชี่ยนแท้ๆ, ปลาหมึกย่างและเมนูปลาเทร้าส์นํ้าจืด
• ชมการแสดงระบำลาโด้ ศิลปะการแสดงท้องถิ่น

ศ.12/10/61 กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – บินสู่เวียนนา

21.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (OS) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องกระเป๋าสัมภาระและการเช็คอิน

23.45 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS026 ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 50 นาที

ส.13/10/61 เวียนนา – บินสู่ซาเกรบ – จัตุรัสเจลาซิค – นั่งรถรางสู่เมืองตอนบนของกรุงซาเกรบ – โบสถ์เซนต์มาร์ก – ประตูหิน – ตลาดกลางเมือง – มหาวิหารประจำเมือง – โอพาเทีย – รูปปั้นนางแห่งนกนางนวล

05.30 น. คณะเดินทางถึง กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย … เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องบิน

07.00 น. เหิรฟ้าต่อไปยัง กรุงซาเกรบ ประเทศโครเอเชีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS681 ใช้เวลาบิน 50 นาที

07.50 น. คณะเดินทางถึง สนามบิน Pleso International Airport หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกรบ (Zagreb) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เมืองศูนย์กลางการปกครองของโครเอเชียตอนเหนือและเป็นมืองหลวงของแคว้นโครเอเชียในยุคของยูโกสลาเวีย หลังยูโกสลาเวียล่มลาย ซาเกรบจึงเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชียในเวลาต่อมา โดยปัจจุบันมีประชากรในเขตตัวเมืองประมาณ 8 แสนคน ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโครเอเชีย

นำท่านไปยัง จัตุรัสเจลาซิค (Jelacic Square) ที่มีรูปปั้นของนายพล “บาน โจซิฟ เจลาซิค” เป็นวีระบุรุษของประเทศที่นำทหารชาวโครแอตต่อต้านฮังการีในสมัยต้นศตวรรษที่ 19 ต่อด้วยเดินชมเขตเมืองเก่าตอนบนและตอนล่างที่เชื่อมกันด้วยรถราง Funicular โดยมีทางวิ่งยาวเพียง 66 เมตร ซึ่งเป็นความยาวสั้นที่สุดในยุโรป ให้ท่านนั่งรถรางสู่เมืองตอนบนของกรุงซาเกรบ ผ่านชมประตูเมืองเก่า ป้อมปราการโบราณ

นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์มาร์ก (St.Mark’s Church) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซาเกรบ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่จุดเด่นของโบสถ์คือกระเบื้องหลังคาที่ทำเป็นโมเสก มีลวดลายเป็นตราประจำเมืองซาเกรบและตราสัญลักษณ์ของประเทศโครเอเชีย สโลเวเนียและดัลมาเซียอยู่ข้างๆกัน และชม ประตูหิน (Stone Gate) ที่เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในอดีต แต่มีรูปของพระแม่มารียังคงเหลืออยู่เพียงสิ่งเดียว เป็นความมหัศจรรย์ที่รูปของพระแม่มารีไม่โดนไฟไหม้ ทำให้ปัจจุบันชาวพื้นเมืองนิยมมาไหว้บูชาหรือขอบคุณกับสิ่งปาฏิหาริย์ ที่เคยขอแล้วได้ดั่งที่ต้องการ สังเกตจากแผ่นหินที่ติดโดยรอบ จะสลักคำว่า “HVALA” ที่แปลว่า ขอบคุณ ในภาษาท้องถิ่น จากนั้นนำท่านไปยัง ตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่มีสีสันสดใส มีร้านอาหาร, ขายไม้ดอก ไม้ประดับ, ผลไม้ราคาถูกและผ้าลูกไม้สวยแบบต่างๆ

นำท่านเข้าชม มหาวิหารประจำเมืองซาเกรบ (Cathedral of Zagreb) โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ ตั้งเด่นเป็นสง่าอย่างชัดเจน มีความสูงถึง 108 เมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโครเอเชีย รอบโบสถ์แห่งนี้ยังมีกำแพงที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรู ก็คือ ชาวออตโตมัน ที่อยู่ทางตะวันออกและส่งกองทัพมาโจมตีอยู่บ่อยๆ โดยกำแพงนี้เรียกว่า Renaissance Wall ที่ยังคงอนุรักษ์มาจนถึงทุกวันนี้ ให้ท่านได้รับฟังเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโบสถ์ และอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกในย่านการค้าตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอพาเทีย (Opatija) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก” ชื่อเดิมของเมืองนี้ในภาษาอิตาลี คือ “Abbazia” ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติก ที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทำให้โอพาเทียเป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย นำท่านชมตัวเมืองและแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้นนางแห่งนกนางนวล (Maiden with the Seagull) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง แ ละมักจะมีนกนางนวลจริงๆ บินมาเกาะที่รูปปั้นนี้เป็นประจำ … จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง, ทำกิจกรรมต่างๆ หรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Grand Hotel Adriatic หรือเทียบเท่า

อา.14/10/61 โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ LOWER LAKE – VELIKI SLIP BIG WATERFALL – ล่องเรือข้ามทะเลสาบ JEZERO KOZJAK

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

09.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (National Park Plitvice) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที โดยระหว่างทางท่านจะได้เดินทางบนเส้นทางเลียบชายฝั่งริมทะเลอาเดรียติกที่สวยงาม เส้นทาง Unseen ที่มีวิวทิวทัศน์ของเกาะแก่งน้อยใหญ่ คล้ายเป็นก้อนนํ้าแข็งขนาดใหญ่กลางทะเล เนื่องจากความแรงของลมบริเวณนี้ทำให้ไม่มีต้นไม้ต่างๆ บนเกาะแก่งเหล่านี้ ไล่ตั้งแต่ช่วงบริเวณเมือง “โนวี่ วิโนโดลสกี้” (Novi Vinodalski) ต่อเนื่องจนถึงเมือง “เซนจ์” (Senj) ชมวิวเพลิดเพลินจนเดินทางข้ามเขตผ่านป่าเขาและทุ่งหญ้าผ่านเมืองออกโตกัก (Otocac) และเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ ซึ่งเป็นอุทยานแห่งสวรรค์ที่มีชื่อเสียงของประเทศโครเอเชีย อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 269 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยนํ้ามีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้ารวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร

บ่าย เริ่มต้นจาก ประตูทางเข้าที่ 1 (Entrance 1) ให้ท่านเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น และยังอุดมไปด้วยพันธุ์ ไม้นานาชนิดถึงประมาณ 1,146 สายพันธุ์

นำท่านเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ที่ประกอบด้วย 4 ทะเลสาบได้แก่ MILANOVAC, GAVANOVAC, KALUDEROVAC และ NOVAKOVICA ชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน แล้วเดินไปชม VELIKI SLIP BIG WATERFALL น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ มีความสูงถึง 70 เมตรเลยทีเดียว

จากนั้น เดินลัดเลาะไปยัง ท่าเรือ P3 (Boat Station 3) นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ JEZERO KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่าง (LOWER LAKE) ขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน (UPPER LAKE) ระหว่างทางเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล โดยแต่ละฤดูกาลจะมีความสวยงามของธรรมชาติโดดเด่นแตกต่างกันโดยยากที่จะตัดสินได้ว่าฤดูกาลใดสวยงามที่สุด จากนั้นเรือล่องมายังท่าเรือ P1 (Boat Station 1) เพื่อนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักในเขตอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคารของอุทยานพลิตวิเซ่ !! ลิ้มรสเมนูปลาเทร้าส์ย่าง

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Jezero Hotel Plitvice (Upper Lakes) หรือเทียบเท่า

จ.15/10/61 อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ – ซาดาร์ – โบสถ์เซนต์ อนาสตาเชีย – โรมันฟอรัม – ออร์แกนทะเล – โทรเกียร์ – สปลิท – ป้อมปราการ The Klis Fortress – ล่องเรือดำน้ำขนาดเล็ก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.00 น. นำท่านเดินทางออกจากอุทยานพลิทวิเซ่ ตอนกลางของประเทศโครเอเชียสู่ เมืองซาดาร์ (Zadar) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ในแคว้นดัลมาเชีย เป็นแคว้นทางตอนใต้ที่มีลักษณะภูมิอากาศและภูมิประเทศแบบเมดิเตอร์เรเนียนขนานแท้ อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นดัลมาเซีย เป็นเมืองที่ร่ำรวยไปด้วยอารยธรรม โดยเฉพาะอารยธรรมแบบโรมัน และเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่กว่า 400 ปี ก่อนคริสต์ศตวรรษ ตัวเมืองมีกำแพงล้อมรอบและป้อมปราการที่แข็งแรง มีเสาหลักโบราณสูง 14 เมตรตั้งอยู่ที่ลานชุมนุมของเมืองและยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์หลายแห่ง

นำท่านเที่ยวชมเมืองซาดาร์ โดยเดินผ่านประตูเมืองเก่าที่ชื่อว่า Land Gate ประตูเมืองแห่งนี้เป็นแห่งเดียวที่อยู่รอดปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งจากสงครามและธรรมชาติ มีสิงโตที่มีปีกประดับอยู่ในประตูนี้ เป็นสัญลักษณ์ของนักบุญที่ชื่อว่า Saint Mark นำท่านเข้าชมโบสถ์สำคัญประจำเมืองก็คือ โบสถ์เซนต์ อนาสตาเชีย (The Cathedral of St.Anastasia) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5-6 ในยุคโรมาเนสก์ และเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัลมาเชีย ชมบริเวณด้านนอกของโบสถ์เซนต์โดแนท (St.Donatus Church) ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญประจำเมืองอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน ชมโรมันฟอรัม (Roman Forum) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 มีความยาวประมาณ 90 เมตร และกว้าง 45 เมตร

ปัจจุบันยังคงหลงเหลือซากสิ่งก่อสร้างในยุคโรมัน ณ ที่แห่งนี้ … จากนั้นเดินไปชม ออร์แกนทะเล (Sea Organ) เครื่องดนตรีที่เล่นเพลงโดยใช้พลังขับเคลื่อนของคลื่นในท้องทะเล มีขั้นบันไดที่ทำจากหินอ่อนทอดตัวลงจากบริเวณชายฝั่งลงสู่ทะเล และมีท่อออร์แกนประมาณ 35 ท่อ ความยาว 70 เมตร โดยจะเล่นตัวโน้ต 5 ตัวโน้ตและมี 7 คอร์ด โดยเสียงเพลงที่จะได้ยินในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่นที่จะซัดเข้ามากระทบฝั่งว่าเบาหรือแรงเพียงใด และในจุดนี้ของเมืองนั้นได้มีคำโฆษณาที่ว่า “พระอาทิตย์ตกดินที่เมืองนี้ สวยที่สุดในโลก”

12.30 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร !! ลิ้มรสเมนูหมูหัน

13.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองโทรเกียร์ (Trogir) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่ได้รับการขนานนามว่า A LITTLE VENICE เมืองโบราณบนเกาะเล็กๆ ที่ถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่าไม่ว่าจะเป็นป้อมปราการจัตุรัส และกำแพงเมืองไว้เป็นอย่างดีจนได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ (UNESCO) ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1997

นำท่านชมเขตเมืองเก่าโทรเกียร์ ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองเก่าที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16, หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14, ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลักมีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟ และรูปสลักนักบุญเซนต์ลอร์เลนต์องค์สำคัญ … จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า หรือเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ระลึกมากมายในเขตเมืองเก่าโทรเกียร์แห่งนี้ … สมควรแก่เวลา

นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองสปลิท (Split) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโครเอเชีย เมืองท่าที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโครเอเชีย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไปที่ประเทศอิตาลีได้ ณ เมืองแห่งนี้ ก่อนพาท่านเข้าเมืองสปลิท (Split) นำท่านไปยัง ป้อมปราการ The Klis Fortress สถ านที่ถ่ายทำภาพยนต์ซีรีย์เรื่องดังระดับโลก Game of Thrones เป็นป้อมปราการยุคกลางที่ตั้งอยู่บนภูเขาเหนือหมู่บ้านคริส (Klis) และอยู่ไม่ไกลกับเมืองสปลิท สร้างขึ้นโดยชาวอิลลีเรียโบราณ จากเดิมเป็นปราสาทที่ประทับของกษัตริย์โครเอเชีย สุดท้ายได้กลายเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ในช่วงสงครามออตโตมันในยุโรป ป้อมแห่งนี้ได้คอยปกป้องบ้านเมืองตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าสองพันปี และด้วยทำเลที่ตั้งของป้อมตั้งอยู่บนภูเขาสูงเด่นตระหง่า จึงทำให้เป็นจุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวในการชมวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นเมืองสปลิทในระยะไกลได้อีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร !! ลิ้มรสเมนูเห็ดทรัฟเฟิลของซีกันเต้

หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำท่านเปิดประสบการณ์ชมทัศนียภาพใต้น้ำของทะเล อาเดรียติค ด้วยการล่องเรือดำน้ำขนาดเล็ก (Semi Submarine Split) โดยเรือล่องอยู่เหนือระดับพื้นผิวน้ำทะเล 1.5 เมตร (5 ฟุต) ชมทัศนียภาพผ่านหน้ าต่างกระจก ชมความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตทางทะเลอาเดรียติค และท่านสามารถเดินออกจากห้องโดยสารขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือได้ตลอดเวลา เรือรับความจุได้ 12 คนต่อรอบ รอบละ 45 นาที

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel Luxe Split หรือเทียบเท่า

อ.16/10/61 สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน – อ่าวมาลี สตอน – นีอุม – ล่องเรือเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย – ดูบรอฟนิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.00 น. นำท่านเข้าชม พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน (Diocletian’s Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1979 โดยในยุคสมัยของจักรพรรดิ์ดิโอเคลีเชี่ยน เป็นช่วงยุคสมัยเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบแซนไทน์นั่นเอง ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้อ งอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม … จากนั้นอิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง, ร้านเนคไท, ร้านรองเท้า, ร้านช็อคโกแลต, ร้านเครื่องหนัง, ร้านกระเป๋าและอื่นๆ อีกมากมาย หรือหากท่านใดไม่ชอบการช้อปปิ้งอาจมานั่งดื่มกาแฟบริเวณหน้าอ่าว ที่เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟเรียงรายตลอดแนวกำแพงฝั่งที่ติดกับทะเล ดูวิถีชีวิตของผู้คนชาวสปลิท และนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนเมืองสวยงามแห่งนี้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อ่าวมาลี สตอน (Mali Ston) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนเดินทางถึงเมืองมาลี สตอน ท่านจะได้แวะถ่ายรูปที่ เมืองนีอุม ประเทศบอสเนีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย และนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ประเทศโครเอเชีย เมื่อถึงเมืองมาลี สตอน นำท่าน ล่องเรือเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ใช้เวลาเยี่ยมชมประมาณ 1 ชั่วโมง ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงหอยแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง จิบไวน์เติมเต็มรสชาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลี สตอน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หรือไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก คือเมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิคได้ถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณซ่อมแซมเมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิคก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลก (UNESCO) อีกเมืองหนึ่งในปี ค.ศ.1979

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร !! ลิ้มรสอาหารสไตล์โครเอเชี่ยนแท้ๆ เมนูหอยแมลงภู่ในซอสมะเขือเทศ (บูซาร่า)

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Kompas DubrovnikHotel หรือเทียบเท่า

พ.17/10/61 ดูบรอฟนิค – ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขา SRD – ล่องเรือพาโนราม่า – เกาะล็อกครุม – เที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค – ชมกำแพงเมืองโบราณ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.30 น. นำท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อ ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีนํ้าเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใดๆ … จากนั้นนำท่าน ล่องเรือพาโนราม่า ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 50 นาที ชมความสวยงามของเมืองเก่าดูบรอฟนิคให้ครบทุกมุมมอง โดยเรือพาโนราม่าจะล่องเลียบกำแพงเมืองเก่ามุ่งหน้าสู่ เกาะล็อกครุม (Lokrum) เกาะนี้เคยมีแขกสำคัญอย่างกษัตริยริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lionheart) แห่งเกาะอังกฤษ มาแวะพักระหว่างเดินทางไปทำสงครามครูเสด ที่ประเทศปาเลสไตน์ ปัจจุบันเกาะนี้ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยค้างคืน มีแต่โบสถ์หรืออารามที่ยงคงเหลือไว้ เรือล่องนำท่านกลับเข้าสู่ท่าเรือดูบรอฟนิค

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร !! ลิ้มรสเมนูปลาหมึกย่าง

บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค ถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก ชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิคมีที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมประตูเมือง (Pile Gate) สร้างไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7, น้ำพุโบราณทรงกลม (Onofrio Fountain) เป็นน้ำพุที่ใช้เป็นเหมือนน้ำประปาในเมือง … จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่บริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย ถ่ายรูปกับ เสาหินอัศวิน (Orlando’s Colum), หอนาฬิกา (Bell tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และ รูปปั้นของนักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง … จากนั้นนำท่านเดินขึ้น ชมกำแพงเมืองโบราณ ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร !! ลิ้มรสเมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ พร้อมชมการแสดงระบำลาโด้ ศิลปะการแสดงท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Kompas DubrovnikHotel หรือเทียบเท่า

พฤ.18/10/61 ดูบรอฟนิค – ช้อปปิ้งละลายเงินคูน่า – บินสู่เวียนนา – บินสู่กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

08.30 น. นำท่านช้อปปิ้งละลายเงินคูน่าก่อนเดินทางออกจากประเทศโครเอเชีย ให้ท่านซื้อของฝากจาก Konzum ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสินค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS” ช็อคโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์โลกเก่าท้องถิ่น “Dingac”, “Postup” จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น “Plavac Mali” คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร

หลังรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

14.55 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS732 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 15 นาที

16.25 น. คณะเดินทางถึง สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อแวะพักเปลี่ยนเครื่องบิน … ระหว่างนี้มีเวลาอิสระให้ท่านเลือกช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบินหรือพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย

ระหว่างรอเครื่องในสนามบินเวียนนา ท่านสามารถซื้อสินค้าในสนามบิน หากราคาสินค้าในบิลเดียวกันเกิน 75 ยูโร สามารถทำภาษีคืนได้ (TAX REFUND)

23.20 น. เหิรฟ้าต่อสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS025 ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง

ศ.19/10/61 กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

14.20 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

กำหนดเดินทาง

• 12-19 ตุลาคม 2561

อัตราค่าบริการ

• ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ (ห้องละ 2 ท่าน) 94,500.-
• เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง) 85,000.-
• เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) 70,000.-
• พักห้องเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ 13,500.-

อัตรานี้รวม

• ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับเป็นหมู่คณะ ชั้นนักท่องเที่ยว เส้นทางกรุงเทพฯ-ซาเกรบ // ดูบรอฟนิค-กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ (OS)
• ค่าภาษีสนามบิน และ ค่าภาษีน้ำมันจากสายการบิน ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2560 ในกรณีสายการบินมีการปรับเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บเพิ่มตามจริง
• ค่าโรงแรมที่พัก ตามรายการที่ระบุหรือเทียบเท่า (ห้องละ 2 ท่าน)
• ค่าอาหารและเครื่องดื่มทุกมื้อ ตามที่กำหนดในโปรแกรม
• ค่ารถโค้ชมาตรฐานยุโรป ท่องเที่ยวตามรายการที่ระบุไว้ในโปรแกรม
• ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ระบุตามรายการ
• ** หากสถานที่ท่องเที่ยวใดที่ไม่สามารถเข้าชมได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์
• ในการไม่คืนค่าใช้จ่าย เนื่องจากทางบริษัทได้ทำการจองและถูกเก็บค่าใช้จ่ายไปแล้ว **
• ค่าธรรมเนียมวีซ่าโครเอเชีย (ไม่ต้องโชว์ตัว) ส่งเอกสารไปทำวีซ่าที่ประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ // สำหรับท่านที่มีวีซ่าในกลุ่มเชงเก้นที่ยังมีอายุการใช้งานเหลือ วีซ่าประเภท C ที่เป็นแบบ Multiple Entry หรือ Double Entry สามารถเข้าประเทศโครเอเชียได้เลยโดยที่ไม่ต้องทำการยื่นขอวีซ่าโครเอเชีย และหักคืนค่าวีซ่าท่านละ 5,300 บาท
• ค่ามัคคุเทศก์ไทยจากกรุงเทพฯ ที่มีประสบการณ์ บริการอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง จำนวน 2 ท่าน
• ค่าทิปพนักงานขับรถวันละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน
• ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมทุกแห่ง เฉพาะใบใหญ่ท่านละ 1 ใบ ส่วนกระเป๋าสัมภาระใบเล็กอยู่ในความดูแลของลูกค้า
• ค่าน้ำดื่มแบบขวด บริการระหว่างเดินทางท่องเที่ยว 1 ขวด / ท่าน / วัน
• ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ที่ดูแลท่านตลอดการเดินทาง และทิปไกด์ท้องถิ่น
• บริการมาม่า, น้ำพริก และขนมของว่างระหว่างการเดินทาง
• ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล
• อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตรานี้ไม่รวม

• ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนดให้น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม/ท่าน
• ส่วนกระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม/ท่าน
• ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือค่าแจ้งเข้าออก กรณีคนต่างด้าว
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ เครื่องดื่มและอาหารนอกรายการ, ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
• ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

การจองทัวร์ (How to make your reservation)

• หากท่านสนใจและประสงค์จะเดินทาง เพื่อเป็นการยืนยันการเดินทางของท่าน กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 30,000 บาทต่อผู้เดินทางหนึ่งท่าน ภายใน 3 วันนับจากวันที่จอง ซึ่งเงินมัดจำดังกล่าวจะเป็นการยืนยันการจองของท่าน และกรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้า 30 วันก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือตามวันที่กำหนด ทางบริษัทฯถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยไม่มีเงื่อนไข