LOFT-EUR-39_GRAND ESPANA SPAIN – PORTUGAL 10 DAYS
นำคณะเที่ยวกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป จากแนวความ คิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราช วังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปีค.ศ.1738ในสไตล์บาร็อก โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ,เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ใกล้กันเป็นปลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de Espana) ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปน ที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
วันที่1 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – กรุงแมดริด (สเปน)
06.30 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
09.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยเที่ยวบินที่ EK375
13.15 น. ถึงสนามบินนครดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
14.40 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงแมดริด ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินที่ EK143
19.50 น. คณะถึงสนามบิน Barajas International กรุงแมดริด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
นำคณะเข้าพัก PUERTA AMERICA MADRID HOTEL***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่2 เที่ยวแมดริด – พระราชวังหลวง – ปลาซา เดอ เอสปันญา – ปูเอต้า เดล ซอล – ปลาซา มายอร์ – ห้าง El Corte Ingles
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะเที่ยวกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป จากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปีค.ศ.1738 ในสไตล์บาร็อก โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ใกล้กันเป็นปลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de Espana) ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปน ที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเที่ยวชมน้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ ของเมืองและอาคารสวยงามใกล้ๆ กันคือ ที่ทำการไปรษณีย์ ผ่านประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 นำคณะเข้าสู่ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสสำคัญของกรุงมาดริด อาคารเก่าแก่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 17 และอดีตที่ทำการเมือง ติดกันเป็นตลาดซันมีเกล (San Miquel) ปัจจุบันย่านนี้เป็นถนนคนเดิน เต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารัก เข้าสู่ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles ชมอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร the oldest restaurant in the world
นำคณะเข้าพัก PUERTA AMERICA MADRID HOTEL***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่3 แมดริด – โตเลโด้ – มหาวิหารแห่งโตเลโด้ – อัลคาซาร์ – กอร์โดบ้า
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่า โดยผ่านประตูเมืองปูเอร์ตา เด บิซากรา หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกทุกแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์, โกธิคและเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือ มหาวิหารแห่งโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อกและนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นป้อมอัลคาซาร์เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แล้วมีเวลาให้ท่านหาซื้อของที่ระลึกในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือดาบและมีดเหล็กกล้า แบบเคลือบดำฝังเงินทองและลวดทองแดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภทให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง
ออกเดินทางชมทัศนียภาพของสเปนตอนใต้ในแคว้นอันดาลูเซีย แคว้นแห่งเกษตร กรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อสเปนมาทุกยุคทุกสมัย สร้างผลผลิต อาทิ น้ำมันมะกอก พืชไร่ องุ่น ฝ้าย และดอกทานตะวัน เป็นเขตภูมิภาคที่อบอุ่นเนื่องจากอากาศดีตลอดปี เพราะอยู่ติดกับมหาสมุทรและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีเมืองกอร์โดบา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดเอกแห่งแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่นักประวัติศาสตร์สากลมักคุ้นในนามอาณาจักรกาหลิบของชาวมุสลิม ว่ากันว่าในยุคศริสต์ศตวรรษที่ 10 เมืองนี้มีความยิ่งใหญ่มาก โดยถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของโลก รองจากอาณาจักรคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรป มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าพัก HOTEL EUROSTARS PALACE CORDOBA***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่4 กอร์โดบ้า – เมซกิต้า – กรานาด้า
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านชมสถาปัตยกรรมสะพานแบบโรมัน (ปูเอนเต้ โรมาโน) ทอดตัวข้ามแม่น้ำกวาดัลกีบีร์ แล้วพาเข้าชมมัสยิดหลวงเมซกีต้า สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด หากจะเปรียบเทียบความใหญ่โตคงจะไม่สร้างความประหลาดใจแต่ ณ ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนาลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมเดิม ซึ่งท่านจะได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของชาวคริสต์อันยิ่งใหญ่ และศิลปะหลายแบบถูกบรรจงเติมแต่งให้สมบูรณ์ จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่เปรียบเป็นความหฤหรรษ์อย่างลึกซึ้งแห่งงานศิลปะและความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือ มีห์รับ ซึ่งถือเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนกระเบื้องเซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงาม จนแทบจะหาชมไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองกรานาด้าอดีตเมืองหลวงของพวกมัวร์ เมืองที่มีความเจริญสูงสุดทั้งทางวัตถุและศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของพวกมัวร์และชาวยิว
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าพัก BARCELO GRANADA CONGRESS***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่5 กรานาด้า – พระราชวังอะลัมบรา- เซบียา – ปลาซา เดอ เอสปันญา – ระบำฟลามิงโก้
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านสู่พระราชวังอะลัมบรา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ไม่มีอันดับอย่างเป็นทางการ ความสุดยอดแห่งจินตนาการและความสามารถทางศิลปะของมัวร์ ตั้งอยู่บริเวณสันเขาบนเนินเขียวขจี ไม่มีคำบรรยายใดจะเปรียบเปรยความวิจิตรพิสดารและความประณีตสมดุลอันน่าทึ่งนี้ได้ พระราชวังแห่งนี้มิได้ยิ่งใหญ่เฉพาะภายนอกแต่อลังการไปด้วยฝีมืออันประณีตจากช่างฝีมือในยุคก่อนที่ได้สร้างสรรค์การตกแต่งอย่างวิจิตร นำคณะเข้าชมพระราชวังหลวง (Nasrid Palace) โดดเด่นไปด้วยลวดลายแกะสลักบนเพดานไม้ ลายเครือเถาบนปูนปั้นที่ประดับผนัง ลายลดาวัลย์ และลายลูกไม้ฉลุบนเรียวโค้งของเสาหินอ่อน ด้านนอกเป็นสวนสวยราวกับจำลองสวนสวรรค์มาไว้บนดิน ลานดอกเมอร์เทิล ขนาบด้วยแนวพุ่มดอกเมอร์เทิล, ซาลอน เดโลส เอมบาฆาโดเรส ห้องสำหรับเข้าเฝ้ากษัตริย์และสุดปลายทางใต้เป็นลานสิงโตสร้างขึ้นรอบน้ำพุโบราณขนาดใหญ่ ห้องพักที่เคยต้อนรับนักเขียนชื่อดัง วอชิงตัน เออร์วิง ในปี 1829 ที่เคยพำนักในพระราชวังแห่งนี้นานถึง 3 เดือนและจุดสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดชมก็คือพระราชวังเฆเนราลิเฟ เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของสุลต่าน ความงดงามของอุทยานสวนอันร่มรื่นและเขียวขจี ประดับด้วยน้ำพุและสระน้ำสมกับความหมายที่ว่าอุทยานสถาปนิก
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองเซวิลล์หรือเซบียา เมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปนและเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่ง สวนสาธารณะ และสวนดอกไม้ เมืองในฝันสำหรับผู้ต้องการสัมผัสชีวิตราตรีอันเร่าร้อน นำท่านไปชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของ ปลาซา เดอ เอสปาญา (Plaza de Espana) อาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรียลุยซ่า ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติค
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมชมและเพลิดเพลินกับดนตรีและระบำฟลามิงโก อันเร่าร้อนสไตล์อันดาลูเซีย
นำคณะเข้าพัก BARCELO SEVILLA RENACIMIENTO HOTEL**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่6 เซบีญา – มหาวิหารแห่งเซบียา – หอคอยฆีรัลด้า – ลิสบอน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำท่านเข้าชมวิหารแห่งเมืองเซบียา (Seville) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างงามวิจิตร สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพ เขียน, เครื่องใช้ในพิธีของศาสนา ที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแต่ประเมินค่ามิได้ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บศพของโคลัมบัสอีกด้วย จากนั้นขึ้นชมหอคอยฆีรัลดา ตึกทรงรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าสูง 93 เมตร (ไม่แนะนำสำหรับท่านที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย) ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของอิสลาม ด้านหน้าเป็นลานกว้างมี ปราสาทอัลคาซาร์ สถาปัตยกรรมที่ยังคงมีคราบเงาความบรรเจิด และความคิดสร้าง สรรค์ของชาวมัวร์ ในอดีตเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์สเปนมาก่อน
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางข้ามพรมแดนสเปน สู่ประเทศโปรตุเกสที่เมืองฟารู (Faro) เป็นเมืองหลวงของเขตแอลการ์ฟ (Algarve) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน เมืองนี้มีความสำคัญขึ้นมาในปีค.ศ. 1577 ฟารูได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองที่พำนักของผู้ดำรงตำแหน่งบิชอป เมืองฟารูครอบคลุมอาณาเขตอุทยาน และทะเลสาบ ริโอฟอร์โมซา (Rio Formosa) แหล่งอนุรักษ์ทางธรรมชาติของนกหลากหลายสายพันธุ์ ที่อพยพมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง จนเข้าสู่กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าพัก VIP GRAND LISBOA HOTEL & SPA***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่7 ลิสบอน – มหาวิหารเจอโรนิโม – หอคอยเบเล็ม – แวะร้านขนมชื่อดัง – แหลมโรก้า – ซินทร้า
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. เที่ยวชมกรุงลิสบอน ชมอดีตพระราชวังหลวงอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสม ผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ชมมหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น World Heritage Site ภายในประกอบไปด้วย อาคารสำคัญต่างๆ แล้วไปชมหอคอยเบเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม บันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด (Nata de Pasteis) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกสต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด, ฝอยทองที่มีต้นตำรับแท้อยู่ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยา โดยท่านท้าวทองกีบม้า
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกผ่านเมืองเล็กๆ น่ารักแถบชานเมืองลิสบอน สู่เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่อง เที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย เป็นเมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม้ดอก และแนวต้นปาล์ม และคลาสสิคด้วยรีสอร์ท ตากอากาศสีพาสเทล แล้วนำท่านไปชมแหลมโรก้า (Capo Da Roca) จุดตะวันตกสุดของยุโรป ก่อนกลับเข้าเมือง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นบนถนนคนเดิน จัตุรัสใจกลางเมือง ย่านช้อปปิ้งสินค้าของเมืองตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าพัก VIP GRAND LISBOA HOTEL & SPA***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่8 บาร์เซโลนา – ยอดเขามอนต์จูอิก – ถนนลาลัมบรา – ช้อปปิ้งถนนกราเซีย
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.50 น. เดินทางสู่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินภายในประเทศ
คณะเดินทางถึงเมืองบาร์เซโลนา เมืองซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือและการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิก เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เที่ยวชมเมือง นำท่านขึ้นสู่ยอดเขามอนต์จูอิก ชมความสวยงามของตัวเมืองอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมบนถนนกราเซีย นำคณะเข้าสู่จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อ ปลายสุดของถนนเป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะ เวสต์อินดีส
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าพัก HOTEL CATALONIA PLAZA CATALUNYA**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่9 ซิตี้ออฟเกาดี้ – สวนสาธารณะ เกวล – โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย – สนามฟุตบอลกัมป์นู – เดินทางไปสนามบิน
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
09.00 น. นำคณะไปชมงานสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาดี้ ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือ กาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลนา อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือ กาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี 1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น แล้วนำท่านไปชมสวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออก แบบตั้งแต่ปีค.ศ.1900-1914 นำชมสถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือ โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย งานก่อสร้างที่คืบหน้าไปแล้วกว่า 70% คาดการณ์แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2030-2032 ด้วยงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างเพิ่มเติมจากนี้ไปอีก 25 ล้านเหรียญยูโร เมื่อสร้างเสร็จจะเป็นโบสถ์ที่หอคอยสูงที่สุดในยุโรป 172.5 เมตร (ปัจจุบันหอคอยที่สูงที่สุดอยู่ที่เมือง Ulm ในประเทศเยอรมนี) ความพิเศษในงานของเกาดี้คือ การรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆ ในธรรมชาติมาใช้และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเข้าชมสนามฟุตบอล เอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า หรือคัมป์ นู (Camp Nou) ความจุ 98,787 คน เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้านกาตาลูนย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1957 เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ. 1982 นำชมความยิ่งใหญ่ของทีมบาร์เซโลน่า ในส่วนที่จัดแสดงเป็นมิวเซียม มีห้องถ้วยรางวัล, ห้องจัดแสดงประวัติและเรื่องราวของทีม, ห้องผลงานของเมสซี ที่รวบรวมแมทช์และการทำประตูอันน่าประทับใจ บางเรื่องราวบอกผ่านด้วยระบบมัลติมีเดีย รวมถึงการชมแมทช์การแข่งขันแบบพาโนรามา ห้องแถลงข่าว และห้องเก็บตัวของนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก (ในกรณีวันเข้าชมตรงกับการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าเข้าชม)
17.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางสู่สนามบินกรุง Barcelona เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
22.05 น. ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK188
วันที่10 เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
07.45 น. ถึงนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน
09.30 น. ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK372
18.40 น. นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ
Period
Tour Fare
Period
Tour Fare
Period
Tour Fare
Period
Tour Fare
ค่าทัวร์รวม:
ค่าทัวร์ไม่รวม:
การจองทัวร์ (How to make your reservation)
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…