Adventure Lapland 9 Days 6 Nights by Thai airways
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Northern Light Village in Levi ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งจะมีโอกาสที่ดีในการมองเห็นแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะช่วงฤดูหนาวในบริเวณขั้วโลกเท่านั้น ซึ่งทุกห้องที่พักเป็นห้องพักแบบกระจก ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ
วันพุธที่ 4 ธ.ค. 62 (1) กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
21.30 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ และหัวหน้าทัวร์คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องกระเป๋าสัมภาระและการเช็คอินแก่ทุกท่านก่อนการเดินทาง
วันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. 62 (2) กรุงเทพฯ – กรุงสตอกโฮล์ม (สวีเดน) – เที่ยวกรุงสตอกโฮล์ม – พิพิธภัณฑ์เรือวาซา – ศาลาว่าการกรุงสตอกโฮล์ม – Gamla Stan – ช้อปปิ้ง – ล่องเรือสำราญ Tallink Silja Line (พักค้างคืนบนเรือ) สู่กรุงเฮลซิงกิ
01.25 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงสต็อกโฮม (Stockholm) โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG960 ใช้เวลาบิน 11.30 ชม.
06.55 น. คณะเดินทางถึง สนามบินกรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) เมืองหลวงของประเทศสวีเดน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงสตอกโฮล์ม ซึ่งล้อมรอบด้วยทะเลสาบมาร์ลาร์จนได้รับสมญานามว่าเป็น ราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
09.00 น. นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา (VASA MUSEUM) เรือรบโบราณอายุร่วม 400 ปีที่กษัตริย์กุสตาฟที่ 2 รับสั่งให้สร้างเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในสมัยนั้น แต่เพียง 20 นาทีที่ลงน้ำเรือวาซ่าที่ยิ่งใหญ่ก็จมลงอยู่ใต้ทะเล และมากกว่า 300 ปี ถึงสามารถกู้ขึ้นมาจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยต้องนำชิ้นส่วนหลายล้านชิ้นที่กระจายไปทั่วท้องน้ำแถบนั้นมาปะติดปะต่อเหมือนต่อโมเดลขนาดยักษ์ แต่ก็สามารถสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่สุดในกรุงสตอกโฮล์มจวบจนถึงปัจจุบัน
10.30 น. นำท่านชม ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮลม์ (City Hall) สัญลักษณ์ของกรุงสตอกโฮลม์ สร้างเสร็จปี 1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่ 20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบลในทุกๆ ปี (ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์) ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19 ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร
13.30 น. นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า แกมล่า สแตน (Gamla Stan) เป็นเขตเมืองเก่าแห่งสตอกโฮล์ม เต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยสมัยโบราณของศตวรรษที่ 13 ที่ยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรือนได้อย่างดี ซึ่งถนนในเมืองยังใช้ปูด้วยก้อนหินสี่เหลี่ยมเล็กๆ อีกทั้งตึกต่างๆ ที่มีทัศนียภาพสวยที่สุดของกรุงสตอกโฮล์ม เชิญเดินเที่ยวชมบริเวณเมืองเก่าแก่ที่สวยงามราวกับภาพวาด ย้อนสู่อตีดอันรุ่งเรือง ที่ปัจจุบันยังทิ้งร่องรอยแห่งความเป็นเมืองแห่งยุคกลาง และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง รัฐสภา มหาวิหาร ตลาดหุ้น ตลอดจนกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์ และมีเวลาให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองย่านวอล์คกิ้งสตรีทอันทันสมัย หรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
15.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือซิลเลียไลน์ เพื่อเปลี่ยนการเดินทางโดยลงเรือสำราญขนาดใหญ่ Tallink Silja Line ซึ่งภายในเรือพรั่งพร้อมไปด้วย ร้านขายของ, คาสิโน, ร้านค้าปลอดภาษี, ร้านอาหาร, บาร์, ดิสโก้เธค, ห้อง Sauna, Spa, ศูนย์สันทนาการสำหรับครอบครัว ฯลฯ
*** กรุณาเตรียมกระเป๋าสำหรับค้างคืนบนเรือ 1 คืน เพื่อความสะดวกในการเดินทางของท่าน ***
17.00 น. เรือสำราญ Tallink Silja Line นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์ ระหว่างทางให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่เกาะแก่งหิน ท่าเรือ และบ้านไม้สมัยศตวรรษที่ 19 ระหว่างสองเมืองหลวงมหาเสน่ห์แห่งสแกนดิเนเวีย
รับประทานอาหารค่ำแบบ “สแกนดิเนเวียนบุฟเฟ่ต์” ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะปลาแซลมอนปรุงพิเศษ และไข่ปลาคาร์เวียร์เลิศรส พร้อมเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็น Soft Drink, เบียร์ หรือไวน์ให้เลือกดื่ม … หลังอาหารพักผ่อนสบายๆ กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในเรือสำราญตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือสำราญ Tallink Silja Line ด้วยห้องพักแบบ A-Class เห็นวิวทะเล
วันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. 62 (3) กรุงเฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) – เที่ยวชมเมืองเฮลซิงกิ – Rock Church – จัตุรัสใจกลางเมือง – นั่งรถไฟสู่ เมืองโรวาเนียมิ (พักค้างคืนบนรถไฟ)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ภัตตาคารบนเรือสำรารญ
09.30 น. เรือจอดเทียบท่า ณ กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก
10.00 น. รถโค้ชรอรับนำท่านเที่ยวชมเมืองเฮลซิงกิ เริ่มจากการนำท่านเที่ยวชม อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) ที่สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิคชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่าแปลกตาทันสมัย ผลงานของศิลปิน Eila Hiltun สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง 10.5 เมตร ลึก 6.5 เมตร หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่ากลางกรุงเฮลซิงกิ
จากนั้น นำท่านชม โบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ (Rock Church) หรือที่รู้จักกันในนาม “โบสถ์หิน” โบสถ์ซึ่งออกแบบโดยสองพี่น้อง ตัวโมและติโม ในปี ค.ศ. 1969 เป็นโบสถ์แบบรูเธอรันที่สร้างอยู่ภายในหินขนาดใหญ่มีการตกแต่งแบบทันสมัยพร้อมระบบเสียงที่ดี โบสถ์หินแห่งนี้จะมีรูปร่างคล้ายจานบิน
ให้ท่านได้ถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารอุสเปนสกี้ (Uspenski Church) มหาวิหารของศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1862 – 1868 โดยได้รับการออกแบบก่อสร้างโดย Aleksei Gornostajev มหาวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ของฟินแลนด์กับรัสเซีย ที่เคยปกครองฟินแลนด์อยู่ถึง 108 ปี และนำท่านชมบริเวณ จัตุรัสซีเนท (Senate Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ๆ และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 และมหาวิหารใหญ่นิกายรูเธอรันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางจัตุรัส
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
14.30 น. อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย ณ Stockmann Department store หรือ shop brand name อาทิ Louis Vuitton, Chanel หรือ Verkkokauppa ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปบนเนื้อที่กว่า 2 หมื่นตารางเมตร มีร้านค้ามากมายทั้ง Angry Birds shop, Lego World and Teddy Workshop เป็นต้น
17.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบไทย ณ ภัตตาคาร
18.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟกรุงเฮลซิงกิ
18.49 น. คณะเดินทางโดยรถไฟสู่ เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) พักค้างคืนบนรถไฟ VR Train
วันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. 62 (4) โรวาเนียมิ – ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ – หมู่บ้านซานตาครอส – เมืองเลวี – พักห้อง Aurora Cabin – ตามล่าหาแสงเหนือโดยรถลากเลื่อนกวางเรนเดียร์
07.13 น. คณะเดินทางถึงสถานีรถไฟ เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) ใช้เวลาเดินทาง 12.24 ชม.
07.30 น. รถโค้ชรอรับนำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม Scandic Rovaniemi City Hotel
09.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ (Husky Farm) ชมความน่ารักของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่แสนเชื่องและเป็นกันเองของชาวแลปป์ ฮัสกี้เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่มักเลี้ยงไว้ใช้ในเขตหนาว จากนั้นนำท่านเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยการขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน (Husky Safari) พร้อมจิบชา, กาแฟเพื่อคลายหนาว (กิจกรรมสุนัขลากเลื่อนประมาณ 2 ชม. ระยะทาง 3 กม.) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ฮัสกี้จึงได้กลายมาเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากสุนัขมีน้ำหนักเบา, คล่องตัว, ว่องไว, แข็งแรง และอดทนต่อความหนาวเย็นและความอดอยากในฤดูหนาวได้ดี รวมทั้งมีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าเป็นที่หนึ่ง จึงทำให้สามารถลากเลื่อนด้วยความเร็วเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส นอกจากนี้สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมีมัชเชอร์ (Musher) เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบจีน ณ ภัตตาคาร
13.30 น. นำท่านเข้าชม หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมที่ทำการไปรษณีย์ซานตาคลอส (Santa Claus Main post office) ท่านสามารถเลือกซื้อไปรษณียบัตรหลากหลายสีสันเพื่อเขียนอวยพรครอบครัวและมิตรสหาย พร้อมทั้งฝากซานต้าคลอสส่งกลับมายังประเทศไทยได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นี้ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ เส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวงเพื่อกำหนดขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ โดยเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลจะอยู่ที่ 66 องศา 33 ลิปดา 44 ฟิลิปดาเหนือ เป็นตัวบ่งบอกจุดเหนือสุดที่ในเวลา 1 ปี คนที่อยู่แถบนี้ มีโอกาสไม่พบกับพระอาทิตย์ขึ้นเลยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือพระอาทิตย์ไม่ตกเลยเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ในการมาเยือนครั้งนี้พร้อมรับประกาศนียบัตรที่ระลึกที่แสดงว่าท่านได้เดินทางผ่านเส้นอาร์คติคเซอร์เคิลแห่งนี้ ซึ่งบ่งบอกว่าท่านได้มาเยือนเขตขั้วโลกเหนือแล้ว … สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลวี (Levi) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม. ระยะทาง 188 กม. เมืองสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และความเป็นธรรมชาติ เมืองเลวียังเคยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรายการ FIS Alpine Ski World ประเภท Slaloms ในปี 2012 อีกด้วย
19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Northern Light Village in Levi ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งจะมีโอกาสที่ดีในการมองเห็นแสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะช่วงฤดูหนาวในบริเวณขั้วโลกเท่านั้น ซึ่งทุกห้องที่พักเป็นห้องพักแบบกระจก ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ
ห้องพักคู่แบบ AURORA CABIN ซึ่งห้องพักเป็นห้องกระจกที่ภายในห้องพักมีระบบปรับอากาศให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว เพื่อให้ท่านได้ชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน รู้สึกเสมือนนอนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ และในวันที่ท้องฟ้าเปิดท่านอาจจะได้เห็นแสงเหนือสุดสวยจากที่พักโดยไม่ต้องออกไปตามล่าหาแสงเหนือ
19.30 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
20.30 น. นำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ท่านจะต้องประทับใจไม่รู้ลืมด้วยการนั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ (Reindeer-Sledding) ยานพาหนะของซานตาครอส ไปตามทุ่งหิมะเพื่อ ตามล่าหาปรากฏการณ์ธรรมชาติแสงออโรร่า (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือแสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดปรากฏการณ์แสงออโรร่าเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก อาจปรากฏเป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที บางครั้งจะปรากฏเหมือนจะแตะกับพื้นหรือในเวลาอื่นอาจพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่ความจริงแล้วเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (Altitudes) ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร (กิจกรรมตามล่าแสงเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง) … จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยยามค่ำคืนอันสุดแสนประทับใจ
ข้อมูลเพิ่มเติมปรากฏการแสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากชั้นบรรยากาศเหนือพื้นโลกไปราว 100 – 300 ก.ม. โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ใน ระหว่างเดือนตุลาคม – เมษายน ของทุกปี
วันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. 62 (5) เลวี – ซาลิเซก้า – อิวาโล่ – ขับขี่สโนว์โมบิลพร้อมตกปลาจากหลุมน้ำแข็ง
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลิเซก้า (Saariselka) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. 15 นาที ระยะทาง 250 กม. เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์มีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านที่พักรีสอร์ท และเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของแลปแลนด์ที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอิวาโล่ (Ivalo) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำอิวาโล่ ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบอินารีประมาณ 20 กิโลเมตรเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์ค ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่ามีแหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่งดินแดนแห่งศูนย์กลางชาวแลปป์ (Lapland) ซึ่งผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้มักเป็นชาวแลปป์ หรือซามิ (Sami) ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ไม่มากนัก
14.30 น. นำท่านสัมผัสกิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบตะลุยหิมะด้วยการขับขี่ สโนว์โมบิล (Snowmobile) พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นำท่านขับขี่สโนว์โมบิลลัดเลาะไปบนทุ่งน้ำแข็ง
จากนั้น ให้ท่านสัมผัสกิจกรรมแปลกใหม่โดยการ ตกปลาจากหลุมน้ำแข็ง (Ice Fishing) ให้ท่านได้ลองตกปลาในแถบอาร์คติดโซนด้วยการเจาะน้ำแข็งด้วยสว่านจนเป็นช่อง ที่สามารถหย่อนเบ็ดลงไปตกปลาที่อยู่ใต้น้ำแข็ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าเจาะตรงไหนถึงจะเจอปลา ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมฤดูหนาวที่สนุกและแปลกแบบที่บ้านเราไม่มี อิสระให้ท่านได้ลองทำกิจกรรมนี้อย่างเต็มที่พร้อมบริการชา, กาแฟเพื่อคลายความหนาวเย็น (กิจกรรมสโนว์โมบิลและตกปลาจากหลุมน้ำแข็ง ใช้เวลารวมประมาณ 2 ชม. 30 นาที) … สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ที่พัก
18.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Ivalo Hotel หรือเทียบเท่า
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. 62 (6) อิวาโล่ – เคิร์กเคเนส (นอร์เวย์) – กิจกรรมจับปูยักษ์
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านออกเดินทางข้ามพรมแดนนอร์เวย์สู่ เมืองเคิร์กเคนเนส (Kirkenes) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม. ระยะทาง 238 กม. ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ในเขตอาร์คติดเซอร์เคิล (Atctic Circle) ไกลจากเส้นอาร์กติก 400 กม. และห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 15 ก.ม. รู้จักกันในนามของนครหลวงแห่งทะเลบาเรนส์ บ้านหลากสีสันสไตล์นอร์วีเจียน เรียงรายชวนให้ช่างภาพกดชัดเตอร์แบบรัวๆ นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นเมืองสุดท้ายของเส้นทางเรือสำราญเหนือสุดของนอร์เวย์ Hurtigruten ซึ่งมีเขตติดกับประเทศรัสเซียและยังเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคบาเรนส์ (Barents) เป็นอีกเมืองหนึ่งของนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ สุนัขลากเลื่อน, กวางลากเลื่อน, Snow Mobile, กิจกรรมจับ ปูยักษ์ (King Crab Safari), การตกปลาในน้ำแข็ง, การนอนใน Snow Hotel และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้เลือกทำกันไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันแบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคาร ให้ท่านได้ลิ้มรสเมนูอาหารปรุงพิเศษจากเนื้อปูยักษ์แบบสดๆ
บ่าย นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่กับ กิจกรรมการจับปูยักษ์ (King Crab Safari) ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก โดยจะนำท่านนั่งรถลากเลื่อนโดย Snowmobile ไปยังบริเวณทะเลสาบน้ำแข็งและเจาะช่องว่างเพื่อนำปูยักษ์ (Red King Crab) ขึ้นมา ปูยักษ์มีขนาดความโดยวัดจากก้ามปูยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัมโดยประมาณ เจ้าหน้าที่จะโชว์วิธีการจับปูยักษ์ และให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์กันอย่างตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูปกับ Russian Monument และ War Mothers Monument ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะและความสูญเสียของเมืองเคิร์กเคเนสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
18.30 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Thon Hotel Kirkenes หรือเทียบเท่า
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วันอังคารที่ 10 ธ.ค. 62 (7) เคิร์กเคเนส – สู่เมืองออสโล – เที่ยวชมกรุงออสโล – พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งโบราณ – อิสระช้อปปิ้งถนนคาร์ลโจฮันเกท
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองเคิร์กเคเนส เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่กรุงออสโล
11.50 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงออสโล (Oslo) โดยสายการบิน Norwegian Air เที่ยวบินที่ DY311 ใช้เวลาบิน 2.15 ชม. * เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างทำการบิน จึงไม่มีบริการอาหารกลางวัน *
14.05 น. คณะเดินทางถึง สนามบินการ์ดเดอมูน กรุงออสโล (Oslo)
15.00 น. รถโค้ชรอรับนำท่านเที่ยวชมกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ดที่ชื่อออสโลฟยอร์ด ซึ่งในปี 2006 ออสโลได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแทนที่โตเกียว
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งโบราณ (Viking Ship Museum) พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ได้จัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณไว้ทั้งหมดจำนวน 3 ลำ โดยมีการขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1867 ถึงปี ค.ศ.1903 หรือประมาณกว่า 150 ปีมาแล้ว และมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นเรือที่แตกต่างยุคกันไป โดยลำแรกมีชื่อว่า “The Oseberg Ship” เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง 22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตร สันนิษฐานว่าจะสร้างในปี 820 ขนาดลำเรือใหญ่ขนาดต้องใช้ฝีพายประมาณ 30 คน และถือว่าเป็นเรือที่สมบูรณ์ที่สุด และยังพบสมบัติอันล้ำค่าจากเรือนี้ด้วย รวมถึงศพของหญิงสาวสองศพ ส่วนเรือลำที่ 2 “The Oseberg Ship” ใช้เวลาถึง 21 ปีในการขุดขึ้นมา และบูรณะใหม่ ซึ่งยาวกว่าลำแรกเพราะวัดความยาวได้ 23 เมตรในขณะที่มีความกว้างเท่ากัน สร้างขึ้นในปี 900 พร้อมกับเรือที่พบเป็นลำที่ 3 “The Tune Ship”
จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งกันอย่างจุใจบริเวณ ย่านคาร์ลโจฮันเกท (Karl Johans Gate) เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบจีน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Thon Hotel Cecil หรือเทียบเท่า
วันพุธที่ 11 ธ.ค. 62 (8) ออสโล – อุทยานฟรอกเนอร์ – สู่กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ อุทยานฟรอกเนอร์ หรือที่รู้จักในนาม Vigeland Sculpture Park สถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ประติมากรรมและการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต รวมถึงการหล่อรูปคนด้วยสัมฤทธิ์ ผลงานของ กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชื่อดังได้แสดงถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ โดยได้รับอนุญาตให้นำผลงานมาจัดแสดงอย่างถาวรในอุทยานแห่งนี้นำท่านถ่ายรูปบริเวณอุทยานกับสถาปัตยกรรมเด่น อาทิเช่น The Main Gate ประตูรั้วเหล็กซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1926, The Bridge สะพานความยาว 100 เมตรซึ่งเต็มไปด้วยรูปปั้นสัมฤทธิ์ 58 ชิ้นด้วยกัน, The Fountain รูปปั้นมนุษย์และต้นไม้ จำนวน 20 ต้น ซึ่งแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์และธรรมชาติ, The Monolith แท่งเสารูปคน 121 คนสูง 17 เมตร ยอดบนสุดเป็นเด็กผู้บริสุทธิ์ เปรียบประหนึ่งเป็นบันไดเวียนที่มนุษย์ต่างปีนป่ายซึ่งกันและกัน เพื่อไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต, และ The Wheel of Life วงล้อแห่งชีวิตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความไม่มีที่สิ้นสุด การเวียนว่ายตายเกิดของวัฏจักรมนุษย์ อิสระให้ท่านเก็บภาพผลงานศิลปะอันเลื่องชื่อภายในอุทยานฟรอกเนอร์ตามอัธยาศัย
10.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินการ์ดเดอมูน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
13.30 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG955 ใช้เวลาบิน 10.50 ชม.
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. 62 (9) กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
06.20 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
กำหนดการเดินทาง :
ราคารวมตั๋วเครื่องบิน คณะเดินทางขั้นต่ำ 20 ท่านขึ้นไป *กรณีมีผู้เดินทางไม่ถึง 20 ท่าน จ่ายเพิ่มท่านละ 4,000 บาท*
อัตรานี้รวม:
อัตรานี้ไม่รวม:
เงื่อนไขการชำระเงิน:
LOFT-EUR59_Autumn Croatia world heritage site 8 Days 5 Nights (OS) นำชมเมืองเก่าดูบรอฟนิก (Grad) โดยเริ่มต้นจากประตูหลัก (Pile Gate),…
LOFT-EUR32_Autumn Best of Germany 11D8N (TG) ชมมหาวิหารโคโลญจน์ ชาวเยอรมันเรียกว่า DOM วิหารแห่งนี้ใหญ่และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สถาปัตยกรรมโบราณในยุคกลาง งานศิลปะ…
LOFT-EUR33_Autumn_Grand Eastern Europe 10 Days 7 Nights (TG) ชมปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สถาปัตยกรรมโบราณสมัย ค.ศ. 11 แบบ กอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก…
LOFT-EUR35A_Autumn Great Britain 10D7N (TG) เที่ยวชมเมืองเอดินเบอระ แคลตันฮิลล์ บนเนินเขาแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามนโปเลียน สถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงมหาวิหารแพนธีออน ในประเทศกรีซ ทำให้ เอดินเบอระได้รับการขนานนามว่า “เอเธนส์แห่งทิศเหนือ” ถนนรอยัลไมล์ ถนนสายสำคัญ…
LOFT-EUR71A_Autumn Norway Lofoten northern light 11D8N (TG) นำคณะออกจากที่พักเพื่อไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ บริเวณใกล้ทะเลสาบ Tornetrask และอุทยานแห่งชาติอบิสโก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นจุดที่มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน Lonely Planet…
LOFT-EUR28B_Autumn Beautiful North Italy 8D5N เดินทางสู่ โดโลไมท์ (Dolomites Mountains) ชมความงดงามของอิตาเลียนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์ ได้ชื่อว่าเป็นแนวเขาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงฤดูหนาวสกีรีสอร์ทเปิดต้อนรับนักสกี และในฤดูร้อน ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สวยตลอดช่วงเทือกเขา…